บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) คาดว่า ในปีนี้บริษัทจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนและพลิกสถานการณ์เป็นมีกำไรได้ หลังจากสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น และขยายฐานลูกค้าใหม่ในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีรายได้จากค่าเชื่อมโยงโครงข่าย(IC)เข้ามา
นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า กลุ่มบมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) กล่าวว่า ในไตรมาส 2/50 บริษัทมีรายได้และ EBITDA สูงสุดเท่าที่เคยทำมา โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 75.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมาเป็น 8.7 พันล้านบาท และ EBITDA โตขึ้นกว่าเท่าตัว คือ 105.5% บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 122 ล้านบาท
"คิดว่าภายในปีนี้ก็น่าที่จะเห็นกำไรครั้งแรกตั้งแต่บริษัทก่อตั้งมา(ปี 33) ในระยะหลังผลขาดทุนลดลงไปเรื่อย ๆ ปีนี้รายได้เราก็ขึ้นมามาก EBITDA เราก็สูงขึ้น"นายสุภกิจ กล่าว
สำหรับรายได้จากค่า IC เป็นรายรับสุทธิในไตรมาส 1/50 จำนวน 45 ล้านบาท และ ไตรมาส 2/50 ที่ 34 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มครึ่งปีหลังอาจจะมีการพลิกเป็นรายจ่ายสุทธิแทน แต่จะไม่สูงมากนัก
ในปีนี้ยังคงเป้ามีส่วนแบ่งตลาด 1 ใน 3 ของลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดประเมินว่าตลาดรวมบริการโทรศัพท์มือถือของไทยในปีนี้จะมีฐานลูกค้าใหม่ประมาณ 12-13 ล้านราย แต่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดลูกค้าใหม่เพียง 20% โดยครึ่งปีแรกมีลูกค้าใหม่สุทธิ 1.5 ล้านเลขหมาย จึงยังต้องเพิ่มลูกค้าใหม่อีก 4 ล้านเลขหมาย จึงจะถึงเป้าส่วนแบ่งตลาดที่ตั้งไว้
สำหรับแนวโน้มการให้บริการในครึ่งปีหลัง คาดว่า รายได้ต่อเลขหมายต่อเดือน(ARPU) น่าจะลดลงจากไตรมาส 2/50 ที่มี ARPU ที่ 216 บาท/เลขหมาย/เดือน ซึ่งลดลง 5% จากไตรมาสแรก เนื่องจากบริษัทได้ขยายฐานลูกค้าใหม่ในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการใช้โทรศัพท์ไม่มากนัก
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--