นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจทั้งปีผลประกอบการจะออกมามีกำไรได้อย่างแน่นอน แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทจะมีผลขาดทุนอยู่ 125.2 ล้านบาท โดยบริษัทเริ่มกลับมามีกำไรสุทธิได้แล้วตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และมั่นใจว่าครึ่งปีหลังผลประกอบการจะออกมามีกำไรได้ โดยหลังจากที่ภาครัฐบาลได้มีการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ซึ่งร้านอาหารในเครือของ ZEN ทั้งหมดกว่า 10 แบรนด์ ซึ่งอยู่ทั้งในและนอกศูนย์การค้า กลับมาฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี
สำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ละลอกที่สองนั้น เชื่อว่าจะไม่ได้เป็นผลกระทบมากเหมือนครั้งแรก เนื่องจากประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ค่อนข้างดี โดยจะเห็นได้จากตัวอย่างที่เกิดขึ้นจังหวัดระยองที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจอาหารเลย
นอกจากนั้น มองว่าบริษัทจะได้รับปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลสามารถตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นมาได้ เพราะเชื่อว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา และล่าสุดภาครัฐบาลได้ประกาศวันหยุดชดเชยทดแทนเทศกาลสงกรานต์ในวันที่ 4 และ 7 ก.ย. ซึ่งมองว่าปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นจะเป็นผลบวกให้กับธุรกิจอาหารเพิ่มเติมด้วย
"ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีมากยิ่งขึ้นตั้งแต่การปิดช่วง Lockdown เราก็ได้มีการปรับโมเดลการขยายกิจการโดยระบบเฟรนไชส์ในรูปแบบร้านตึกแถวมากขึ้น ขณะที่ปัจจุบันการกลับมาใช้บริการของร้านอาหารแบรนด์ต่างๆของบริษัทกลับมาเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หรือขึ้นมาราว 85-95% เมื่อเทียบกับช่วงที่ยังไม่เกิดการแพร่ระบาด"นายบุญยง กล่าว
ปัจจุบันบริษัทได้ปรับรูปแบบการขยายสาขา โดยเฉพาะแบรนด์เขียงด้วยการเปิดสาขาและขยายเฟรนไชส์ในรูปแบบร้านตึกแถวจากเดิมที่สาขาจะตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีงบลงทุนที่ต่ำเพียง 1 ล้านบาทต่อสาขา จากเดิมอยู่ที่ 2 ล้านบาทต่อสาขา โดยคาดในเดือน ส.ค. นี้ จะมีจำนวนสาขาครบ 100 สาขา จากปัจจุบัน 60 สาขา ขณะเดียวกันหลังจากเปลี่ยนรูปแบบการเปิดสาขามีผู้ที่สนใจซื้อเฟรนไชส์แบรนด์ร้านอาหารเขียงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง