นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตกว่า 5 พันล้านบาท หลังครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 2.5 พันล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าภาพรวมครึ่งปีหลังนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้น หลังปัญหาภัยแล้งคลี่คลายลง การเพาะปลูกเริ่มกลับมาเป็นปกติ, โรงเรียนและมหาวิทยาลัย กลับมาเปิดทำการ ทำให้มีความจำเป็นใช้เงินมากขึ้น ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/63 ก็จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลด้วย
ทั้งนี้บริษัทยังเดินหน้าแผนขยายสาขาต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีหลังนี้จะขยายเพิ่มเติมอีกกว่า 100 สาขา จากไตรมาส 2/63 มีสาขาทั้งสิ้นอยู่ที่ 4,568 สาขา ซึ่งจะส่งผลทำให้สิ้นปีนี้จะมีสาขาอยู่ที่ 4,700 สาขา โดยวางงบลงไว้ที่ 250,000-800,000 บาท/สาขา คาดว่าจะช่วยหนุนพอร์ตสินเชื่อในปีนี้เติบโต 20-25% ได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ บริษัทจะควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้ไม่ให้เกิน 2% จากสิ้นไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 1.11% เนื่องด้วยลูกค้าเริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นหลังเริ่มกลับมาทำงานได้ตามปกติ ซึ่งลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คิดเป็นสัดส่วน 10% ของพอร์ตสินเชื่อคงค้าง ณ ไตรมาส 2/63 ที่อยู่ที่ 63,174 ล้านบาท โดยหลักจะเป็นลูกค้าที่มีอาชีพเป็นพนักงานโรงงาน ขณะนี้เริ่มกลับมาจ่ายคืนหนี้ได้ตามปกติแล้วประมาณ 81-82% ตั้งแต่เดือนก.ค.63 เป็นต้นมา ทำให้บริษัทไม่มีความกังวลในเรื่อง NPL เนื่องจากสัดส่วนการเก็บยังเป็นไปได้ด้วยดี และการหยุดพักชำระหนี้ก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
นายชูชาติ กล่าวว่า บริษัทยืนยันมีเครดิตวงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับการชำระคืนเงินกู้ที่จะครบกำหนดประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ในอีก 12 เดือนข้างหน้า และยังพยายามที่จะขยายเครดิตวงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย