XO อวดงบ Q2/63 กำไรพุ่งทุบสถิติ 560.82% ออร์เดอร์กลุ่มซอสทะลักรับอานิสงส์โควิด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 13, 2020 18:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/63 ทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส บริษัทมีกำไรสุทธิ 91.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 560.82% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 13.91 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 339.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.48% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 210.14 ล้านบาท

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 41.84% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 27.09% รับอานิสงส์สถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก และจากมาตรการล็อกดาวน์ (Lockdown) ส่งผลให้ร้านอาหารในต่างประเทศต้องปิดให้บริการ แต่เปิดให้บริการในส่วนของซุปเปอร์มาร์เก็ต ทำให้ความต้องการซอสปรุงรสและวัตถุดิบในการประกอบอาหารมีการขยายตัว คนนิยมประกอบอาหารทานเองที่บ้านมากขึ้น

ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 63 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 139.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.67% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 81.58 ล้านบาท และเติบโตกว่าทั้งปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 121.99 ล้านบาท ด้านรายได้จากการขายอยู่ที่ 611.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.41% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 512.36 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 38.23% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 22.76% ทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ

สำหรับปริมาณการขายในงวดไตรมาส 2/63 รวม 4,109 ตัน ส่วนใหญ่เป็นยอดขายสกุลเงินบาท 78.49% ลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนสกุลเงินยูโรมีสัดส่วนอยู่ที่ 4.52% และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 16.99% อย่างไรก็ดี สินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มเป็นกลุ่มสินค้าหลักของบริษัทฯ มีสัดส่วนราว 80% ของยอดขายทั้งหมด อีกทั้งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงที่สุดในกลุ่ม มีอัตรากำลังการผลิตสินค้ากลุ่มซอสอยู่ที่ 62% ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ที่ดีมาก จากไตรมาส 1/63 มีอัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 49%

"ภาพรวมผลการดำเนินงานที่ออกมาเติบโตอย่างน่าประทับใจ ในท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลดีต่อสินค้าของบริษัทฯ ให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก โดยเราเห็นทิศทางยอดขายปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา คนเริ่มหันมาทำอาหารทานเอง เป็น New Normal ที่ส่งผลดีต่อยอดขายกลุ่มซอสซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารในต่างประเทศ ขณะที่การบริหารจัดการภายในดีเยี่ยม ความสามารถในการควบคุมต้นทุนหลักของบริษัทฯ ได้แก่ น้ำตาล กระเทียม และพริก ที่เราล็อคราคาในระดับต่ำได้อย่างน้อยถึงสิ้นปี 64 ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่ดีมาก ประกอบกับอัตรากำลังการผลิตในระดับสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมกำไรงวดไตรมาส 2/63 เติบโตจากงวดไตรมาส 2/62 และเติบโตจากงวดไตรมาส 1/63 ที่ 560.82% และ 94.29% ตามลำดับ ทำสถิติใหม่ในทุกตัวเลข" นายจิตติพร กล่าว

สำหรับฐานลูกค้าหลักของบริษัทฯ อยู่ในต่างประเทศเกือบทั้งหมด รวมประมาณ 60 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นลูกค้ากลุ่มหลักในทวีปยุโรป กว่า 83% เอเชียประมาณ 6% ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ประมาณ 8% ส่วนที่เหลือเป็นทวีปอเมริกาและอื่นๆ

ทั้งนี้ ประเมินภาพรวมตลาดซอสส่งออกครึ่งปีหลัง จะยังคงได้รับอานิสงส์ต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลกยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และรอวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัส มองเป็นอานิสงส์ระยะยาวให้ผู้บริโภคหันมาทำอาหารทานเองที่บ้าน เกิดเป็นพฤติกรรมใหม่ และทานอาหารนอกบ้านน้อยลง สินค้าของบริษัทฯ อยู่ในกลุ่มอาหารที่เป็นครัวของโลก อาหารไทยได้รับความนิยม จึงคาดการณ์ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ดี โดยมีสินค้ากลุ่มซอสเป็นดาวเด่น

นอกจากนี้ บริษัทจะเห็นคำสั่งซื้อจากลูกค้าล่วงหน้าก่อนที่จะส่งของราว 4-6 อาทิตย์ จึงประมาณการณ์ตัวเลขในช่วงหลังจากนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย และมั่นใจเป้ารายได้ปี 63 ที่วางไว้จะเติบโต 10% จากปีก่อนมีรายได้ราว 999 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถทำได้มากกว่านั้น และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยทั้งปีนี้มากกว่า 35%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ