(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: วิกฤติสินเชื่อสหรัฐ ฉุดนิกเกอิปิดร่วง 369 จุด

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนในวันนี้ (15 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์สินเชื่อในสหรัฐ
          โดยเฉพาะข่าวที่ว่าบริษัทเซนนิเทล เมเนจเมนท์ ซึ่งบริหารสินทรัพย์มูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ ได้แจ้งลูกค้าให้ชะลอการไถ่ถอนหน่วยลงทุนเพื่อให้ทางบริษัทสามารถหลีกเลี่ยงการขายสินทรัพย์ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 369.00 จุด หรือ 2.2% ปิดที่ 16,475.61 จุด หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 16,433.30 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.03 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นจากวานนี้ที่ 1.86 พันล้านหุ้น
          นายฮิโรยูกิ นากาอิ นักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยโตเกอิ โตเกียวกล่าวว่า "นักลงทุนมีความวิตกกังวลต่อวิกฤตการณ์ตลาดสินเชื่อในสหรัฐมากขึ้น ผมคาดว่าภาวะตื่นตระหนกเช่นนี้จะยังคงปกคลุมตลาดไปอีกระยะหนึ่ง และคาดว่านักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนรายย่อยจะปลีกตัวออกจากตลาดเพราะไม่ต้องการเผชิญกับภาวะผันผวน และคาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังลังเลที่จะเข้าซื้อในขณะรอผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22-23 ส.ค.นี้"
          ด้านนายยูยะ ยามากุชิ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ไดวา กล่าวว่า นักลงทุนคาดว่าบีโอเจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า เนื่องจากตลาดการเงินทั่วโลกยังตกอยู่ในภาวะผันผวน
          ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มส่งออกถูกแรงขายกระหน่ำลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลที่ว่าการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินเยนจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทส่งออกทรุดตัวลงด้วย โดยหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ อาทิ หุ้นนิสสัน มอเตอร์ ดิ่งลง 4.8% หุ้นอีซูซุ มอเตอร์ส รูดลง 3.2% และหุ้นโตโยต้า มอเตอร์ร่วงลง 3.0%
          ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงหนักสุดอันเนื่องจากวิกฤตการณ์ตลาดซับไพรม์ในสหรัฐ โดยหุ้นมิตซูบิชิ ไฟแนนเชียล รูดลง 5.2% และหุ้นซูมิโตโม่ ทรัสต์ แอนด์ แบงกิ้ง หลังจากธนาคารทั้ง 2 แห่งเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในตลาดซับไพรม์ในสหรัฐ