นางแววตา กุลโชตธาดา รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.ที เอส ฟลาวมิลล์ (TMILL) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 63 บริษัทมีกำไรสุทธิ 67.25 ล้านบาท เติบโต 43.7% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46.80 ล้านบาท
แม้ว่าบริษัทจะเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งภาวะการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาจำหน่ายแป้งสาลีและรำข้าวสาลีเฉลี่ยลดลง 5.0% และ 13.7% อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องปรับลดราคาจำหน่ายแป้งสาลีลง ดังนั้น บริษัทจึงมีรายได้จากการขายในงวด 6 เดือนแรกของปี 63 ลดลง 3.2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยที่ายได้จากการจำหน่ายแป้งสาลีลดลง 2.0% และรายได้จากการจำหน่ายรำข้าวสาลีลดลง 1.2%
แต่บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราต้นทุนขายใน 6 เดือนแรกของปี 63 ลดลง 3.9% และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากต้นทุนของข้าวสาลีที่ใช้ในปี 63 ถูกกว่าปี 62 เนื่องจากปัจจัยด้านราคาข้าวที่มีการทำสัญญาซื้อตั้งแต่กลางปีก่อน ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงปลายปีก่อน โดยมีการใช้อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยใน 6 เดือนแรกของปี 63 อยู่ที่ 73.76% เพิ่มขึ้น 1.10% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สะท้อนว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ไม่มากนัก
ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในงวด 6 เดือนแรกของปี 63 ลดลง 7.66 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากค่าขนส่งสินค่าที่ลดลงตามราคาน้ำมัน ค่าเช่าตามสัญญาระยะยาวที่มีการปรับไปอยู่ในต้นทุนทางการเงินบางส่วน และการปรับประมาณการสวัสดิการให้กับพนักงาน
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/63 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 23.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาท หรือ 7.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/62 มีผลกำไรสุทธิ 22.11 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการใช้อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 71.06% เพิ่มขึ้น 1.16% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน