นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) กล่าวว่า บริษัทและ มิตซุย ฟูโดซัง มีปรัชญาร่วมกันด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าที่ต้องการตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัวที่สุด นอกจากการพัฒนาธุรกิจคอนโดมิเนียมแล้ว ยังได้ร่วมกันพัฒนาเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 5 แห่งในกรุงเทพ โดยพร้อมที่จะเปิดดำเนินการในไตรมาส 3/63 คือ LYF SUKHUMVIT 8
บริษัทมีความยินดีในความสำเร็จกับ มิตซุย ฟูโดซัง ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการร่วมมือกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าที่มีคุณภาพที่ผ่านมา โดยได้เริ่มพัฒนาโครงการภายใต้การร่วมทุนตั้งแต่ปี 56 จนถึงปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการทั้งหมด 29 โครงการ จำนวน 23,000 ยูนิต มูลค่า 87,921 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่ามิตซุย ฟูโดซัง เชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์บนทำเลเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นอย่างมากเห็นได้จากการร่วมทุนเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้มีโครงการร่วมทุนที่จะแล้วเสร็จและพร้อมโอนทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่า 29,815 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ แอชตัน อโศก-พระราม 9 โครงการ ไอดีโอ คิว วิคตอรี่ โครงการ ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 โครงการ ไอดีโอ รัชดา – สุทธิสาร โครงการ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์พอยท์ โครงการ เอลลิโอ เดล เนสท์ และ โครงการ เอลลิโอ สาทร - วุฒากาศ
สำหรับอนันดาฯ ในการดำเนินงานท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนยิ่งทำให้ต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ภายใต้แนวคิด "Change The Plan Never The Goal" ยึดมั่นในเป้าหมาย ยืดหยุ่นในวิธีการ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและความต้องการของลูกค้า ซึ่งอนันดาฯ ยังคงให้ความสำคัญและเชื่อมั่นในกลยุทธ์การพัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่บริษัทฯ ริเริ่มเป็นเจ้าแรกและดำเนินการมาโดยตลอด
นอกจากนี้บริษัทให้ความสำคัญในการดำเนินงาน เพื่อผลักดันให้บริษัทขับเคลื่อนในสถานการณ์ปัจจุบัน เน้นในเรื่องของการวางกลยุทธ์และแนวทางการสื่อสารแบรนด์ขององค์กร โดยยังคงแนวคิดในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมือง และตอบทุกความต้องการในการใช้ชีวิต โดยเน้นทำเลที่ตั้งที่สะดวกในการเดินทาง การทำงาน และ Lifestyle ของคนเมืองเพื่อตอกย้ำแนวคิด "URBAN LIVING SOLUTIONS" ครบทุกโหมดในการใช้ชีวิต ทั้ง LIVE – WORK - PLAY ให้คนเมืองใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
บริษัทยังมีการปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ Ananda iStore การทำตลาดผ่านรูปแบบการขายและบริการออนไลน์ที่อำนวยความสะสวกให้กับลูกค้าได้ง่ายขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่เปลี่ยนไป และเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดีถึงพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ที่มีบทบาทมากในสังคมปัจจุบันโดยเฉพาะจะเห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้นในช่วงโควิด บริษัทจึงได้นำมาพัฒนาเป็นหนึ่งกลยุทธ์สำคัญเพื่อปรับตัวรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งขณะนี้บางประเทศกำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการแพร่ระบาดครั้งนี้กำลังเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตและการทำงานของทุกคน โดยเห็นแนวโน้มใหม่ๆ เช่น การทำงานทางไกลผ่านระบบต่างๆ และการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นโอกาสในการสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อนันดาฯ มีจุดแข็งในการรองรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันในตลาดหลังยุคไวรัสโควิด-19 พร้อมพันธมิตรทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน