นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร (TK) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/63 คาดว่าฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 2/63 ที่เป็นช่วงล็อกดาวน์ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายและผ่อนคลายล็อกดาวน์มากขึ้นได้ ทำให้กิจกรรมต่างๆกลับมา รวมไปถึงยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศได้ฟื้นตัวแล้วในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.ที่ผ่านมาแบบ V-Shape แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันในช่วงฤดูฝน แต่จากการปิดล็อกดาวน์ทำให้กำลังซื้อคงค้างอยู่ และกลับมาซื้ออีกครั้งในขณะนี้ ทำให้มองว่าแนวโน้มความต้องการสินเชื่อรถยนต์กลับมาเติบโตขึ้นตามยอดขายที่กลับมา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการ์ณโควิด-19 ในประเทศจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่จากผลกระทบที่เกิดขึ้นที่ทำให้เศรษฐกิจยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และยังไม่เห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทำให้กำลังซื้อและความสามารถในการชำระหนี้ลดลง ประกอบกับ ยังมีความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบสองที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ทำให้บริษัทยังไม่เร่งปล่อยสินเชื่อ และเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น จึงคาดว่าปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ในปี 63 จะหดตัวลงจากปีก่อน และพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้ออาจลดลงหรือทรงตัวใกล้เคียงปีก่อนที่ 6.77 พันล้านบาท
"ช่วงที่เหลือของปีนี้เรายังคงเน้นการควบคุมคุรภาพหนี้ไม่เห็น NPL ขยับขึ้นไปมากจากครึ่งปีแรกที่ 9.4% อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ท้าทายเรามาก เพราะความเสี่ยงยังไม่หมดไป และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าก็ลดลงไปด้วย การเรียกเก็บหนี้ก็ทำได้ค่อนข้างยาก ทำให้เราก็ยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างท้าทายของเรา เพราะนับตั้งแต่ต้นปีมามีปัจจัยลบหลายอย่างเข้ามากดดัน ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หนี้ครัวเรือนที่ทรงตัวสูง การส่งออกและการท่องเที่ยวชะลอตัว ตลอดจนความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ ส่งผลกระทบกับเศราฐกิจและรายได้ของคนที่ลดลง"นายประพล กล่าว
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่า แผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศของบริษัทอาจต้องเลื่อนกำหนดออกไปบ้างหลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะการขยายสาขาในลาวอีก 3 สาขาที่อยู่ระหว่างรออนุมัติจากทางการลาว คาดว่าจะเลื่อนไปเป็นปี 64 จากปัจจุบันที่บริษัทมีสาขาในลาวอยู่แล้ว 3 สาขา
ส่วนการลงทุนเข้าซื้อกิจการ Myanmar Finance International Limited (MFIL) ในประเทศเมียนมา มูลค่าราว 450 ล้านบาท ได้เลื่อนกำหนดการเข้าซื้อเสร็จสิ้นจากช่วงไตรมาส 3/63 ไปเป็นช่วงเดือน พ.ย.63 หรือต้นปี 64 เพราะมีอุปสรรคขากการปิดน่านฟ้าและการที่เมียนมายังคงล็อกดาวน์การเดินทางข้ามประเทศ ส่งผลให้การเซ็นสัญญาและข้อตกลงร่วมต่างๆเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยบริษัทจะมีการเจรจาราคาซื้อขายกิจการ MFIL ใหม่อีกครั้งให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
"ข้อดีของดีล MFIL ที่เลื่อนไป คือ เราไม่ต้องไปเป็น Operator เองในช่วงโควิด-19 และตอนนี้เรากำลังคุยกับผู้ขาย เพราะเราอยากขอเจรจาเพื่อทำการต่อรองราคา เพราะสถาการณ์เปลี่ยน Valuation เปลี่ยน ก็คิดว่าราคาซื้อขายน่าจะปรับได้"นางสาวปฐมา กล่าว
ส่วนการขยายสาขาใหม่ในประเทศกัมพูชายังอยู่ระหว่างการสำรวจทำเลที่ตั้ง คาดว่าจะขยายอีก 2-3 สาขาในปี 64 จากปัจจุบันที่มี 12 สาขาแล้ว ซึ่งตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของกัมพูชายังเติบโตดีต่อเนื่อง แม้อาจจะชะลอตัวไปบ้างในปีนี้จากโควิด-19 แต่ยังมั่นใจว่าหากสถานการณ์กลับมาปกติ ตลาดกัมพูชายังเป็นตลาดที่น่าสนใจ
นอกจากนี้บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่ราว 500 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดอายุในช่วงไตรมาส 3/63 วงเงิน 1 พันล้านบาท และในส่วนที่ครบกำหนดที่เหลืออีก 500 ล้านบาท บริษัทจะใช้เงินหมุนเวียนมาชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุในชุดดังกล่าว