บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส ประกาศความสำเร็จในการเปิดบริการ 5G SA (Stand Alone) ครบแล้ว 77 จังหวัด ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการต่อยอดนวัตกรรมเครือข่ายจากเทคโนโลยี 5G SA ระดับภาคอุตสาหกรรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย และกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีความต้องการใช้งานที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยี 5G โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งมาช่วยส่งเสริมนโยบายภาครัฐในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ยุค Industry 4.0 อย่างยั่งยืนต่อไป
นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส กล่าวว่า หลังจากเดินหน้าขยายเครือข่าย 5G ครบ 77 จังหวัด และครอบคลุมเต็มพื้นที่ 100% นิคมอุตสาหกรรมใน EEC แล้วนั้น ในวันนี้ เอไอเอส สานต่อภารกิจฟื้นฟูประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายพื้นที่ให้บริการเครือข่าย 5G SA (Stand Alone) ครบทั้ง 77 จังหวัด
ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของการต่อยอดนวัตกรรมเครือข่าย AIS 5G ที่จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อภาคอุตสาหกรรมไทย เนื่องจากการพัฒนานวัตกรรมเครือข่าย 5G จำเป็นต้องอาศัยคุณสมบัติของ 5G SA โดยเฉพาะ ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานทั้งด้านความเร็ว ความหน่วงต่ำ และการเชื่อมต่อเทคโนโลยี IoT จำนวนมาก
รวมถึง เทคโนโลยี 5G Network Slicing ที่ช่วยปรับแต่งคุณสมบัติเครือข่ายและทรัพยากร เพื่อให้สอดคล้องและยืดหยุ่นกับลักษณะการใช้งานแต่ละรูปแบบ ในแต่ละพื้นที่ของภาคธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ทำให้สามารถรับประกันคุณภาพของการเชื่อมต่อและความเร็วได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี 5G Multi - access Edge Computing (MEC) ที่สามารถนำ Application Server ให้เข้าใกล้ผู้ใช้งานมากที่สุด ช่วยให้สามารถใช้งานเครือข่ายด้วยการเข้าถึงแบบไร้สาย เพื่อให้บริการประมวลผลในปริมาณมากและมีความปลอดภัยสูงสุด ก็ล้วนเป็นศักยภาพที่ทำได้เฉพาะใน 5G SA เท่านั้น ด้วยความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลเทียบเท่าระดับโลก จึงถือเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติที่กำลังมองหาฐานการผลิตใหม่ที่เหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาว ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัล จะเป็นข้อได้เปรียบสำหรับการแข่งขันบนเวทีโลก และนำไทยก้าวสู่ยุค Industry 4.0 ได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เอไอเอส ถือเป็นโอเปอร์เรเตอร์เพียงรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ให้บริการ 5G Dual Mode ทั้งแบบ SA (Stand Alone) เครือข่าย 5G เฉพาะ และ NSA (Non-Stand Alone) เครือข่าย 5G ที่ทำงานร่วมกับ 4G บนคลื่นความถี่ 2600 MHz