นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2/63 บริษัทมีกองหนี้ที่ตัดมูลค่าเงินลงทุนหมดแล้วจำนวน 42,781 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะไม่มีต้นทุนทางการเงิน และจะสามารถรับรู้รายได้เต็มที่ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้สำหรับกองหนี้ที่ไม่มีต้นทุน 100% บริษัทคาดหวังเก็บกระแสเงินสดเข้ามาได้สิ้นปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพรวม 189,156 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 62 อยู่ที่ 174,490 ล้านบาท โดยใช้เงินในการซื้อหนี้แล้วราว 1,983 ล้านบาท จากงบลงทุนซื้อหนี้ปีนี้ที่วางไว้เบื้องต้น 4,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีหนี้เสียที่ปล่อยออกมาจากกลุ่มสถาบันการเงินอีกจำนวนมาก ทำให้บริษัทมีโอกาสใช้เงินเข้าซื้อหนี้เพิ่มสูงถึงระดับ 6,000 ล้านบาท โดยบริษัทเตรียมงบลงทุนเพิ่มเติมแล้ว
สำหรับยอดจัดเก็บหนี้ในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,699 ล้านบาท เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และตั้งเป้าหมายสิ้นปีมียอดจัดเก็บหนี้ที่ 4,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จาก 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจติดตามหนี้สัดส่วนรายได้ 12% ธุรกิจซื้อหนี้เข้ามาบริหาร 79% และธุรกิจประกันผ่านบริษัทย่อย 9%