นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไพลอน (PYLON) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ในงวด 6 เดือนแรกปี 63 (สิ้นสุด มิ.ย.63) มีกำไรสุทธิ 143.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.95 ล้านบาท คิดเป็น 14.34% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการให้บริการ 993.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 307.89 ล้านบาท คิดเป็น 44.88% เติบโตขึ้นจากการทยอยส่งมอบงานในมือ
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/63 ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างงานฐานรากในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดในสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) รัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์ปิดเมือง ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ชะลอการออกโครงการ ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมบริษัทมีกำไรสุทธิที่ 37.98 ล้านบาท ลดลง 6.73 ล้านบาท คิดเป็น 15.05% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการให้บริการ 262.50 ล้านบาท ลดลง 9.93 ล้านบาท คิดเป็น 3.64%
ปัจจุบันมีมูลค่างานในมือ (Backlog) รอส่งมอบราว 600 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในครึ่งปีหลังปีนี้ อีกทั้ง ยังเตรียมเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมอีก โดยเฉพาะงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จากภาครัฐ ประกอบราคาวัสดุก่อสร้างมีทิศทางอ่อนตัวลง ส่งผลให้การบริหารจัดการต้นทุนทำได้ดีขึ้น
"ด้วยความพร้อมของบริษัทและลูกค้าในมือเป็นลูกค้าชั้นนำโครงการขนาดใหญ่จากภาคเอกชนและรัฐบาล ส่งผลให้ในไตรมาส 2 แม้อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ จึงได้รับผลกระทบไม่มากนัก และยังคงสามารถเดินหน้าส่งมอบงานให้เป็นไปตามแผน ควบคู่การบริหารจัดการที่รัดกุม หนุนงบครึ่งปีแรกกำไรของบริษัทยังคงเติบโต มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22.72% อัตรากำไรสุทธิ 14.36%" นายชเนศวร์ กล่าว
สำหรับช่วงครึ่งปีหลังปี 63 มองว่าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยสามารถรับมือได้อย่างดีเยี่ยม อุตสาหกรรมมีทิศทางเริ่มจะฟื้นตัว บวกกับความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ ทั้งในส่วนของงานฐานรากของภาคเอกชน และงานหน่วยงานราชการที่มีการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ด้านสาธารณูปโภค เป็นผลบวกระยะยาวให้ PYLON ได้รับงานมากขึ้น
ล่าสุด บริษัทได้รับงานโครงการทางพิเศษสายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก(สัญญาที่2) และปัจจุบันอยู่ระหว่างการประมูลงานเพิ่มเติมในหลายโครงการ