นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มีข้อสรุปที่จะปรับเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี มูลค่าประมาณ 1.2 แสนล้านบาทใหม่ โดยใช้เกณฑ์พิจารณาข้อเสนอซองที่ 2 ด้านเทคนิค (สัดส่วน 30 คะแนน) และข้อเสนอซองที่ 3 ด้านการเงิน (สัดส่วน 70 คะแนน) มาพิจารณารวมกัน ทำให้ต้องขยายเวลายื่นเอกสารประกวดราคาจาก 60 วัน ไปอีก 45 วันหรือจากกำหนดให้ยื่นเอกสารในวันที่ 23 ก.ย.63 เลื่อนไปเป็นวันที่ 6 พ.ย.63 เพื่อให้เอกชนมีเวลาปรับปรุงข้อเสนอให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่
ทั้งนี้ ภายในสัปดาห์หน้า รฟม.จะออกเอกสารแจ้งเพิ่มเติมให้เอกชนผู้ซื้อเอกสารประกวดราคารับทราบหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกที่ปรับใหม่
สาเหตุที่ต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาใหม่ เพื่อให้ตรงกับประกาศคณะกรรมการนโยบายการลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ที่กำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์ วิธีดำเนินการต่างๆ ในโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งจากที่ได้พิจารณาและตรวจสอบกับหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ PPP ถึงหลักเกณฑ์การให้คะแนนซองข้อเสนอทางเทคนิครวมกับราคา แล้ว รฟม.ยืนยันว่า การพิจารณา โดยนำข้อเสนด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคา ให้คะแนนประกอบการคัดเลือกจะเป็นประโยชน์กับโครงการมากที่สุด
"การปรับเกณฑ์พิจารณาไม่ได้เกิดจากมีร้องเรียน แต่เพื่อให้ตรงกับประกาศของคะกรรมการนโยบาย PPP เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2563 เนื่องจากคณะกรรมการมาตรา 36 ได้สรุปเงื่อนไขทีโออาร์ไปตั้งแต่เดือนพ.ค. แต่ยอมรับว่าก่อนจะเสนอร่างประกาศ รฟม.อาจจะยังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง จึงทำให้ต้องออกเป็นเอกสารเพิ่มเติมในทีโออาร์"
ส่วนกรณีที่บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ยื่นหนังสือถึง รฟม.ว่าการปรับเกณฑ์การพิจารณาขัดต่อพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯนั้น ผู้ว่าฯ รฟม. ยืนยันไม่ขัด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ เนื่องจากในพ.ร.บ.ได้ระบุถึงวีธีการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อนและต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ให้สามารถนำข้อเสนอด้านเทคนิคมาเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินได้ ซึ่งที่ผ่านมาในการจัดจ้าง วิศวกรที่ปรึกษา รฟม.ได้เกณฑ์ข้อเสนอทางเทคนิค รวมกับข้อเสนอด้านการเงินและประเมินผล (Price & Performance) มาก่อนแล้ว