บมจ.แอสคอน คอนสตรัคชั่น(ASCON) พับแผนขยายธุรกิจเข้ารับงานในเวียดนามและกัมพูชา มุ่งหน้าเข้าตะวันออกกลางทางเดียว โดยเริ่มจากการจับมือธุรกิจท้องถิ่นตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อรับงานก่อสร้างในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) ประเดิมโครงการในดูไบ 600 ล้านบาทที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาในต.ค.นี้ และเล็งเข้าประมูลงานที่อะบูดาบีกว่าหมื่นล้านบาท
นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASCON เปิดเผยว่า บริษัทร่วมทุนใน UAE มี 2 บริษัทที่ดูไบ และ อะบูดาบี โดยร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่ง ASCON จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 49% และทั้งสองบริษัทมีทุนจดทะเบียนแห่งละ 10 ล้านบาท
สำหรับบริษัทร่วมทุนในดูไบจะเข้ารับงานโครงการก่อสร้างเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ 10 ชั้น 2 โครงการ รวมมูลค่า 600 ล้านบาท คาดจะเซ็นสัญญาได้ภายในเดือนต.ค.50 หลังจากวันนี้ได้เซ็นเอ็มโอยูกับผู้ว่ารัฐเทศบาลนครดูไบ ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าจะมีงานก่อสร้างในดูไบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะในดูไบยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก
"พันธมิตรของเราที่ดูไบ มีความมั่นคง เนื่องจากเป็นบริษัทส่วนตัวของผุ้ว่าการรัฐเทศบาลนครดูไบเอง และท่านจะมีแผนสร้างเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ 40 กว่าตึก ซึ่งถือว่าเยอะมาก แต่แบบโครงการคาดว่าจะเสร็จในปีนี้มี 2 โครงการ คิดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในเดือนก.ย.ถึง ต.ค. ระหว่างนี้ ASCON ก็เตรียมความพร้อมสำหรับไปทำงานที่โน่น"นายพัฒนพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการในดูไบจะใช้เวลาอีก 15 เดือนในการก่อสร้างและคาดว่า ปีนี้จะรับรู้รายได้จากงานในต่างประเทศเป็นครั้งแรก 100-200 ล้านบาทจากงานที่ดูไบ
ส่วนในอะบูดาบี จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อว่าบริษัท แอสคอน เอมิเรตส์ ซึ่งบริษัทจะถือหุ้น 49% เช่นเดียวกัน โดยมีแผนเข้าประมูลงานก่อสร้าง 2 โครงการ มูลค่ารวมเบื้องต้นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คือ โครงการที่พักอาศัยสูง 30 ชั้น และ โครงการคอมเพล็กซ์ที่จะมีทั้งศูนย์การค้าและที่พักอาศัย ซึ่งน่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในปีนี้ คาดว่าจะต้องใช้เวลาก่อสร้างค่อนข้างนาน และแบ่งเป็นหลายเฟส เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่
**พับแผนงานในเวียดนาม-กัมพูชา
นายพัฒนพงษ์ กล่าวว่า งานในเวียดนามขณะนี้บริษัทไม่ได้เข้าไปดูแล แต่ได้ให้บริษัท สตราบัก เอส อี (STRABAG SE) พันธมิตรเยอรมันที่ร่วมทุนทำโครงการในเวียดนามเป็นผู้ดูแลทั้งหมด เพราะต้องการเข้าไปลงทุนในสหรัฐเอมิเรตส์ที่มีโครงการน่าสนใจมากกว่า ทั้งนี้ที่เวียดนามบริษัทร่วมทุนกับเยอรมันได้งานก่อสร้างโรงแรม มูลค่างานประมาณ 400-500 ล้านบาท
ส่วนงานที่กัมพูชา บริษัทชะลอแผนการเข้าไปลงทุน เนื่องจากมีปัญหาการเมืองท้องถิ่น เชื่อว่าปัญหาการเมืองน่าคลี่ลายได้ประมาณกลางปี 51
ขณะที่งานในประเทศ โดยเฉพาะงานภาครัฐชะลอตัว อย่างไรก็ดี บริษัทเตรียมพร้อมจะเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ร่วมกับบริษัทเยอรมัน และจะเข้าร่วมประมูลโครงการก่อสร้างอิสสระ ลาดพร้าว มูลค่างานกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทเคยได้รับงานประมูลโครงการอิสสระ สุขุมวิท 42 มาแล้ว
"เราเชื่อมั่น งานภาครัฐโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่อย่างรถไฟฟ้า เราพร้อมประมูลในทุกสาย เพราะเรามีฐานเงินทุนและแหล่งเงินทุนที่แข็งแกร่ง หลังเราได้ Lehman Brothers เข้ามาร่วมถือหุ้นของบริษัท ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่าจะมีทุนเพียงพอในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ และโครงการรถไฟฟ้าเราก็จะไปร่วมกับเยอรมัน"นายพัฒนพงษ์กล่าว
สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 2-2.2 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 2.2-2.5 พันล้านบาท จากงานในมือซึ่งปัจจุบันมีงานในมืออยู่ 3.8- 4 พันล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--