แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) และบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนอร์ชั่นแนล จำกัด (EGATi) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกฟผ. เตรียมลงนามความร่วมมือระหว่างกันในเดือนก.ย.นี้ เพื่อร่วมพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิ ขนาด 1,320 เมกะวัตต์ (MW) ในเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของค่าไฟฟ้า คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปีนี้ และจะสามารถลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ Vietnam Electricity (EVN) ในช่วงต้นปี 64
หลังจากนั้นผู้ร่วมพัฒนาทั้ง 3 รายก็จะร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ โดยเบื้องต้น EGATi จะถือหุ้น 40% , EGCO 30% และ RATCH 30% เพื่อพัฒนาโครงการที่มีมูลค่าประมาณ 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในปลายปี 66-67 มีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี
ด้านแหล่งข่าวจาก RATCH เปิดเผยว่า นอกจากการเตรียมพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิแล้ว บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กำลังการผลิต 100-200 เมกะวัตต์ ในนิคมอุตสาหกรรมที่ใกล้เมืองย่างกุ้ง ในเมียนมา โดยหากการเจรจารายละเอียดแล้วเสร็จ ก็คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างและจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ในปี 66
ส่วนความคืบหน้าการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกอง 4A และ 4B ในลาว กำลังผลิตรวม 340 เมกะวัตต์นั้น บริษัทได้ยื่นเสนอขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. ตามกรอบความร่วมมือ (MOU) การซื้อขายไฟฟ้าระหว่างไทยกับลาวไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตัดสินใจจากทางภาครัฐ ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ ก็จะเดินหน้าก่อสร้างและพร้อมจ่ายไฟฟ้าในปี 69
โครงการคาดว่าจะมีมูลค่าลงทุนราว 835 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง RATCH ในสัดส่วน 60% ส่วนที่เหลือเป็นพันธมิตร 2 ราย คือ Lao World Engineering & Construction CO.,Ltd. และบมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ถือหุ้นฝ่ายละ 20%
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการพิจารณากรอบความร่วมมือ (MOU) ซื้อขายไฟฟ้าระหว่างไทยกับลาว ที่เหลืออยู่อีกประมาณ 3,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะขยายกรอบการรับซื้อไฟฟ้าหรือไม่ ยังมีเงื่อนไขที่ทางลาวจะต้องช่วยเรื่องการผันน้ำ ส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกอง 4A และ 4B ในลาว ก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมด้วยเช่นกัน