(เพิ่มเติม) TOG เผยมีแนวโน้มรายได้รวมทั้งปี 50 อาจสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เติบโต 15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 9, 2007 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ. ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG)มองราคาหุ้นพุ่งแรงรับผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ รวมทั้งการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสต่อ ๆ ไปของปียังน่าจะเติบโตต่อไปอีก โดยคาดว่ารายได้ทั้งปีนี้อาจจะทำได้สูงกว่าที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเติบโต 15% จาก 1.25 พันล้านบาทในปี 49 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้าง conservative 
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าเป็นประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไป เพราะหากไม่มีผลกระทบเรื่องดังกล่าว ผลกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกอาจจะสูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปี 49 ที่อยู่ในระดับ 90.48 ล้านบาท แทนที่จะออกมาแค่ 67.90 ล้านบาท
สำหรับประเด็นการเพิ่มสภาพคล่องหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ขณะนี้ได้พยายามแก้ปัญหาด้วยการชักชวนให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งส่วนเป็นบุคคลในตระกูล"ประจักษ์ธรรม"ขายหุ้นในมือออกมาบ้างเมื่อมีจังหวะและราคาที่ดีเพื่อให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น แต่คงจะไม่ขายจำนวนมากจนถึงขั้นทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไป และไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อเพิ่มเพิ่มจำนวนหุ้นหมุนเวียนให้มากขึ้น
นายสว่าง ประจักษ์ธรรม ประธานกรรมการ TOG เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ถึงสาเหตุที่ในรอบสัปดาห์นี้ ราคาหุ้น TOG ปรับตัวสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลาประมาณ 11.54 น.วันนี้ ราคาหุ้น TOG ปรับขึ้นสูงสุดในรอบครึ่งปี มาที่ 2.60 บาท/หุ้น น่าจะเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกและต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 2 ของปีนี้
ประกอบกับเมื่อเช้าบริษัทเพิ่งประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้น
"เมื่อวานนี้ประชุมกรรมการ ซึ่งเห็นว่าจะเก็บเงินที่มีอยู่ไว้ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ก็เอามาคืนให้ผู้ลงทุนดีกว่า เพราะยังไม่มีโครงการจะต้องใช้เงิน"นายสว่างกล่าว
เช้านี้ TOG แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 20.00 ล้านบาท โดยมีกำหนดปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 สิงหาคม 2550 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2550
โดยวันที่ 6 ส.ค.ราคาหุ้น TOG ปิดที่ 2.30 บาท +0.88%, 7 ส.ค. ปิดที่ 2.34 บาท +1.74% และ 8 ส.ค.ปิดที่ 2.34 บาท ทรงตัวจากวันก่อน
"สาเหตุที่ราคาหุ้นขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องน่าจะมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่มีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เชื่อว่า Net Profit ของครึ่งปีแรกปีนี้อาจจะทำได้เกือบเท่ากับกำไรทั้งปีของปีที่แล้วด้วยซ้ำ"นายสว่างกล่าว
ปี 49 TOG และบ.ย่อย มีกำไรสุทธิ 90.48 ล้านบาท ขณะที่ Q1/50 มีกำไรสุทธิ 24.55 ลบ. และ Q2/50 กำไรสุทธิ 43.41 ลบ.
ดังนั้น เชื่อว่าการที่บริษัทตั้งเป้าว่ารายได้รวมปีนี้จะเติบโต 15% จาก 1.25 พันล้านบาทในปี 49 น่าจะทำได้ไม่ยาก
"เราเชื่อว่าที่ตั้งเป้าว่าปีนี้รายได้จะโต 15% จากปีก่อน น่าจะทำได้ไม่ยาก และก็อยากจะให้เกินจากที่ตั้งเป้าไว้ แต่ว่าเราอยากให้ตัวเลขที่ Conservative ไว้ก่อน เพราะถ้าบอกเกินไม่มีใครว่า แต่ถ้าขาดมีคนว่าแน่นอน เอาเป็นว่าเป็นว่าจะทำให้ดีที่สุด"นายสว่างกล่าว
สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลังหากไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เราวิตกกังวล เพราะฉะนั้นครึ่งปีหลังคงจะดีเหมือนกับครึ่งปีแรก แต่จะดีกว่าหรือไม่ยังตอบไม่ได้
**เจรจาผถห.ใหญ่ปล่อยหุ้นเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง แต่ไม่มีแผนเพิ่มทุน
นายสว่าง กล่าวถึงแนวทางการเสริมสภาพคล่องให้หุ้น TOG ว่า ได้มีการเจรจากับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซึ่งก็เป็นคนในตระกูล"ประจักษ์ธรรม" ให้ขายหุ้นที่มีในมือออกมาบ้าง เพราะหุ้นที่เคยติดไซเลนท์พีเรียด ตอนนี้ก็หมดไซเลนท์พีเรียดพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่มีการขายหุ้นออกมาเลย
"ได้มีการคุยกับผู้ถือหุ้นกันบ้างแล้ว ส่วนใหญ่ก็คนกันเองทั้งนั้น ก็ถ้าราคาหุ้นขึ้นมาแบบนี้ ก็อาจจะไม่ต้องไปชักจูง คงจะมีการขายออกมากันเอง แต่สำหรับผมคงยังไม่ขาย เพราะจำนวนหุ้นไม่เยอะเท่ากับคุณคำรณและคุณประทีป ก็คุยว่าให้ช่วยปล่อยหุ้นออกมาให้มีสภาพคล่องบ้าง แต่ไม่ใช่ขายจำนวนมากจนถึงขั้นมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่"นายสว่างกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีแนวคิดจะเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มจำนวนหุ้นหมุนเวียนให้มากขึ้น เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน
"ยังไม่เคยมีแนวคิดเรื่องเพิ่มทุนเลยนะครับ แต่มีการพูดคุยว่าจะทำอย่างไรเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้หุ้นใตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่มีอยู่ในหัวข้อการประชุมกรรมการเลย"นายสว่าง กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ