นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในช่วงรอปัจจัยใหม่หนุน โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบเล็กน้อยเป็นส่วนใหญ่ ในช่วงรอดูการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็คสัน โฮล วันที่ 27-28 ส.ค.นี้ ให้จับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ เวลา 09.10 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 20.10 น.ตามเวลาไทย
แต่ทั้งนี้ ตลาดฯก็มีปัจจัยลบจากข่าวจีนทดสอบขีปนาวุธ หลังจากที่สหรัฐส่งเครื่องบินสอดแนมเข้าสู่เขตห้ามบิน ซึ่งอาจจะทำให้ความขัดแย้งระหว่างจีน และสหรัฐฯเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีจะต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
นอกจากนี้ ให้ติดตามความคืบหน้าโครงการภูเก็ตโมเดล และติดตามปัจจัยทางการเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะหากมีอะไรขึ้นมาก็จะเป็นความเสี่ยงของตลาดฯได้
พร้อมให้แนวรับ 1,311 จุด ส่วนแนวต้าน 1,327-1,332 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,331.92 จุด เพิ่มขึ้น 83.48 จุด (+0.30%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,478.73 จุด เพิ่มขึ้น 35.11 จุด (+1.02%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,665.06 จุด เพิ่มขึ้น 198.59 จุด (+1.73%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 20.18 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.75 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 22.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 55.36 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 2.10 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.37 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ส.ค.63) 1,322.55 จุด เพิ่มขึ้น 6.56 จุด (+0.50%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 362.38 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ส.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 ส.ค.63) ปิดที่ 43.39 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ส.ค.) อยู่ที่ 0.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.25 แข็งค่าตามภูมิภาค มองกรอบ 31.20-31.35 รอฟังสุนทรพจน์ประธานเฟดคืนนี้
- นายกฯเล็งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วยพยุงเศรษฐกิจ เตรียมมาตรการจำกัดจำนวน จำกัดพื้นที่เที่ยวชี้ชุมชนท้องถิ่นต้องเข้าใจ "สาธารณสุข" คาดเริ่มต.ค.นี้ ยืนยันเข้มคุมระบาด "ปรีดี" เล็งเพิ่มมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว มั่นใจเศรษฐกิจพ้นต่ำสุด ปีหน้าโต 4-5%
- บอร์ดกองทุนพลังงานปัดตกโครงการใช้งบปี 63 อื้อ ชี้เหตุไม่เข้าเกณฑ์ อนุมัติแค่ 2.06 พันล้านบาท จากงบตั้งต้น 5.6 พันล้านบาท ด้าน ปตท.ขอดูแลต้นทุน NGV รถสาธารณะต่อถึงสิ้นปี
- นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยในงาน Thailand Focus 2020 ว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 และภาวะของเศรษฐกิจโลกทำให้ตลาดทุนปั่นป่วน ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงอย่างรุนแรงในเดือนมีนาคมและเมษายน แต่ตลาดหุ้นไทยสามารถผ่านพ้นช่วงยากลำบากนั้นมาได้ โดยดัชนีหุ้นไทยร่วงลงถึง 37% และดีดกลับมาในปลายเดือนมิถุนายน และแตะระดับใกล้กับก่อนวิกฤติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าดัชนีฟื้นตัวมาสู่ระดับก่อนเกิดปัญหาในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
- สศอ.ยิ้มสัญญาณเอ็มพีไอกระเตื้อง เผยงวด ก.ค.อยู่ที่ระดับ 85.47 ชี้บางอุตสาหกรรมฟื้นตัว ด้านบริษัทตั้งใหม่ ก.ค.63 มีจำนวน 5,667 ราย ลดลง 12% ธุรกิจขนส่งมาแรง
*หุ้นเด่นวันนี้
- ITEL-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL)) เทรดวันนี้วันแรก โดยมีจำนวน 249,999,451 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปีนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (20 สิงหาคม 2563) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2563 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 19 ส.ค. 2564
- GPSC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 112 บาท คาดกำไร H2/63 ฟื้นตัวแข็งแกร่งหนุนโดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีที่ได้ประโยชน์จากปริมาณน้ำไหลเข้าที่มากกว่าคาด นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากราคาก๊าซซึ่งเป็นต้นทุนที่ต่ำลงเป็นบวกต่อ Margin พร้อมคาดกำไรปกติปี 2563 เติบโตแข็งแกร่ง +85% ขณะที่ปี 2564 คาดโตต่อเนื่องอีก +265 Y-Y ขณะที่การจัดโครงสร้างและถือหุ้นเพิ่มของ PTT 3.5% จะช่วยหนุนการเติบโตของโครงการต่างๆในระยะถัดไป
- MC (หยวนต้าฯ) "เก็งกำไร"เป้า 11 บาท คาดผลประกอบการ ปี 63/64 จะมีกำไรปกติที่ 505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.4% YoY จากการฟื้นตัวของรายได้ที่ 3.5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นระดับ 10.4%YoY โดยมองว่าการต่อยอดฐานลูกค้าภายใต้ช่องทาง Omni Channel และ E-commerce ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายขณะเดียวกันการพัฒนารูปแบบสินค้าใหม่ ๆ ที่หลากหลายรวมถึงการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดขายและผลประกอบการได้ดี บริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.20 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 5 พ.ย. จ่ายปันผล วันที่ 25 พ.ย ให้ผลตอบแทน Div. Yield 2%
- ORI (เอเอสแอล) "ซื้อ"เป้า 9.00 บาท จากยอด backlog ที่แข็งแกร่ง รวมถึงแนวโน้มผลประการที่เติบโตใน H2/63 สามารถควบคุมต้นทุน-ค่าใช้จ่ายได้ดี มองเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทุกองค์ประกอบเลือกเป็น Top pick ของกลุ่มอสังหาฯ