นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) กล่าวว่า บริษัทร่วมลงนามครั้งสำคัญกับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อเตรียมเดินหน้าแผนพัฒนาครั้งใหม่ในการเสริมสร้างความหลากหลายของพอร์ตโฟลิโอโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ด้วยการนำ 3 แบรนด์โรงแรมระดับโลกมาสู่ย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ และริมชายหาดพัทยา
การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นเครือโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักมากที่สุดในโลกเพื่อเตรียมความพร้อมสร้างความแข็งแกร่งยกระดับการท่องเที่ยวของประเทศ รวมทั้งอุตสาหกรรมโรงแรมไทยให้โดดเด่นน่าจับตามอง ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาสู่ประเทศไทย ทั้งการเดินทางเพื่อธุรกิจ และการพักผ่อนหย่อนใจ เพิ่มศักยภาพให้ AWC เป็นหนึ่งในเจ้าของโรงแรมแบรนด์ในกลุ่ม แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย แปซิฟิค (ยกเว้นประเทศจีน) ด้วยจำนวนห้องพักรวม 6,636 ห้อง จากโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 9 แห่ง รวมห้องพักทั้งหมด 3,452 ห้อง และโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 7 แห่ง (รวม 4 โรงแรมในสัญญาสำคัญครั้งนี้จำนวน 1,638 ห้อง) ด้วยจำนวนห้องพัก 3,184 ห้อง
โรงแรมใหม่ 3 แห่งแรกในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย
- โรงแรมภายใต้แบรนด์ "ริทซ์-คาร์ลตัน รีเสิร์ฟ" ในพื้นที่โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์ รีสอร์ตหรูระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรีภายใต้แบรนด์ริทซ์-คาร์ลตัน รีเสิร์ฟ แห่งที่สองของไทย
- โรงแรม เจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ โฮเทล เอเชียทีค กรุงเทพ ภายใต้การบริหารของแบรนด์เจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ แห่งแรกของไทย
- โรงแรม ดิ เอเชียทีค แบงค็อก, ออโตกราฟ คอลเลคชัน ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ออโตกราฟ คอลเลคชัน
โดยทั้ง 3 โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่โครงการอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูส (Mixed-Use Development) ส่วนต่อขยายของโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ จุดหมายในการท่องเที่ยวอันมีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยตัวอาคารของทั้ง 3 โรงแรมจะเติมแต่งเส้นขอบฟ้าของภูมิทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้งดงามกว่าที่เคย
สำหรับโรงแรมแห่งที่ 4 คือโรงแรม อควาทีค พัทยา, ออโตกราฟ คอลเลคชัน อีกหนึ่งโรงแรมภายใต้แบรนด์ออโตกราฟ คอลเลคชัน ตั้งอยู่ที่โครงการอควาทีค เดอะบีชฟรอนท์ พัทยา
"เรายังคงเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมีอนาคตที่แข็งแกร่งในระยะยาว ดังนั้นการที่ AWC ร่วมกับพันธมิตรระดับโลก ทำให้เราสามารถสร้างประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดและตอบความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย เพิ่มศักยภาพและโอกาสให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยสามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ที่หลากหลายเช่น นักท่องเที่ยวกลุ่มสุขภาพ (Wellness) และนักท่องเที่ยวกลุ่มพำนักระยะยาว (Long Stay) ที่จะเติบโตมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ ตลอดจนสามารถมอบประสบการณ์ดึงดูดกลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ให้ความสำคัญในการเลือกสรรและไว้วางใจกับมาตรฐานการบริการที่เหนือระดับ" นางวัลลภา กล่าว