(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: หวั่นซับไพรม์ไม่ทุเลา กดดาวโจนส์ปิดลบ 0.25 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 24, 2007 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าทางการสหรัฐจะสามารถคลี่คลายวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อได้หรือไม่ แม้มีข่าวว่าแบงค์ออฟอเมริกาได้อัดฉีดสภาพคล่องมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์เข้าพยุงบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลซึ่งกำลังประสบปัญหาด้านการลงทุนในตลาดซับไพรม์ก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 0.25 จุด ปิดที่ 13,235.88 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 รูดลง 1.57 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 1,462.50 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 11.10 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 2,541.70 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.38 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.65 พันล้านหุ้น
นายจิม เฮอร์ริค นักวิเคราะห์ด้านการซื้อขายหลักทรัพย์จากบริษัทแบรดแอนด์โค กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อไหวในแดนบวก หลังจากมีข่าวว่าแบงก์ออฟอเมริกาได้เข้าพยุงกิจการคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ด้วยการเข้าซื้อหุ้นมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในคันทรีไวด์ แต่ต่อมาตลาดเริ่มถอยร่นลงเมื่อนายแองเจโล มาซิโล ซีอีโอของคันทรีไวด์แสดงความคิดเห็นว่า ตลาดปล่อยกู้จำนองที่ชะลอตัวลงอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยลงด้วย
"ขณเดียวกันนักลงทุนจับตาดูว่าเฟดจะมีปฏิกริยาอย่างไรต่อไปในการพลิกฟื้นวิกฤติตลาดสินเชื่อและตลาดซับไพรม์ หลังจากที่เฟดอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบหลายครั้ง และได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน 0.50% เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ส่วนล่าสุดนั้น เฟดได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคารอีก 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นสภาพคล่องให้ไหลเวียนอย่างเพียงพอ" นายเฮอร์ริคกล่าว
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กถอยลงปิดในแดนลบคือราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น 57 เซนต์ แตะที่ระดับ 69.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และข่าวที่ว่าเลห์แมน บราเธอร์ส ประกาศปิดธุรกิจปล่อยกู้จำนองในตลาดซับไพรม์และลดจำนวนพนักงานลง 1,200 อัตรา ขณะที่ธนาคารเอชเอสบีซีระบุว่าธนาคารจะลดจำนวนพนักงานลงเช่นกัน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทปล่อยกู้จำนองหลายรายในสหรัฐ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้เผชิญวิกฤตการณ์ปล่อยกู้จำนองในตลาดสินเชื่ออย่างยากลำบาก
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเคลื่อนตัวผันผวนต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีสัญญาณที่ชัดเจนว่าเฟดจะตัดสินใจอย่างไรเรื่องอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ที่ระบุว่า โครงการของกองทุนร่วมทุนในการซื้อกิจการซัพพลายค้าส่งของบริษัทโฮม ดีโปท์ อิงค์อาจประสบปัญหา ซึ่งข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นโฮม ดีโปท์ร่วงลง 2.2%
หุ้นแบงค์ออฟอเมริกา พุ่งขึ้น 23 เซนต์ ปิดที่ 51.88 ดอลลาร์ หุ้นคันทรีไวด์ดีดขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 22.02 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค.ร่วงลง 0.7% ปิดที่ 45.67 ดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ