บริษัท พรีไซซ อีเลคโทร-แมคคานิเคิล เวอร์คส์ จำกัด (PMW) ภายใต้สายธุรกิจ Power Distribution & Energy Management ในเครือ บมจ.พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น (PCISE) โชว์ผลงานส่งมอบ Smart Load Break Switch ให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้ครบเร็วกว่าสัญญาภายในสิ้นปี 63 โดยได้รับสัญญาซื้อขาย 24 KV 600 A Pole-mounted Load Break Switch 3 phase without voltage transformer และ Telecontrol Device จำนวน 1,440 ชุด จากการเข้าร่วมประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding)
นายวิทูร เจียมจิตต์ตรง ประธานกรรมการ PMW เปิดเผยว่า โครงการ Smart Load Break Switch จำนวน 1,440 ชุดนี้พรีไซซส่งมอบให้กับ กฟน.โดยมีจุดประสงค์ติดตั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายไฟฟ้าในกรุงเทพและปริมณฑล ที่ได้มีการส่งมอบไปแล้วจำนวน 750 ชุด และเริ่มติดตั้งใช้งานแล้วในเขตกรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ในรายละเอียดสัญญามีการแบ่งออกเป็น 10 งวดในการส่งมอบ ซึ่งตามสัญญากำหนดส่งมอบให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.พ.64 แต่ด้วยกำลังการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถผลิต LBS ได้ 300 ชุดต่อเดือน ทำให้ PMW จะสามารถส่งมอบ Smart Load Break Switch ได้ครบก่อนสัญญาภายในสิ้นปี 63 นี้
ปัจจุบันทางพรีไซซได้ส่งมอบผลงานไปแล้ว 5 งวด และกำลังทยอยส่งมอบต่อไปจนครบสัญญา เมื่อส่งมอบและติดตั้งครบแล้วจะได้รับรายได้ตามมูลค่าสัญญาเป็นมูลค่ากว่า 220 ล้านบาท
สำหรับ Smart Load Break Switch ของบริษัทในสัญญานี้ เป็นสวิตช์สำหรับตัดต่อระบบไฟฟ้าแรงสูง 24kV มีความสามารถเปิดวงจรในระบบจำหน่ายไฟฟ้าขณะที่มีกระแสโหลดได้สูงสุดถึง 630A และรองรับการสั่งงานผ่านระบบรีโมทระยะไกลจากศูนย์สั่งการ โดยผ่านตัวกลางเป็นสายไฟเบอร์ออฟติก ที่มีเสถียรภาพสูง
สินค้ารุ่นนี้ได้รับพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าเดิม มีการใช้งานที่ง่ายขึ้น ออกแบบให้มีส่วนประกอบชุดกลไกขับเคลื่อนลดลงถึง 70% ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ยังมีน้ำหนักลดลงจากรุ่นเดิมถึง 40% มีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม 20% ทำให้การติดตั้งใช้งานสะดวกและรวดเร็ว โดยมีการออกแบบภายใต้มาตรฐานสากล IEC 62271-103 และผ่านการทดสอบ Type Test จากห้องทดสอบ Korea Electrotechnology Research Institute (KERI) จากประเทศเกาหลีใต้
นายวิทูร กล่าวว่า ในปีนี้ยังมั่นใจว่าพรีไซซเดินหน้าเตรียมยื่นประมูลงานด้านไฟฟ้าและพลังงานอย่างต่อเนื่อง ที่เริ่มจะเปิดประมูลแข่งขันในช่วงหลังของปีนี้ หลังจากเจอพิษของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้มีการหยุดชะงักไปในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯมองว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ จะกลับเข้าสู่ภาวะการแข่งขันของธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดที่มีสถานการณ์ดีขึ้นในประเทศไทย คาดว่างานประมูลในช่วงหลังจากนี้ ทั้งของ กฟน. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน จะเริ่มทยอยประกาศออกมาเพิ่มมากขึ้น
และการแข่งขันในตลาดส่งออกต่างประเทศก็ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทางพรีไซซก็ดำเนินงานอยู่ในการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศใกล้เคียง เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และฟิลิปปินส์ เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวยังคงมีความต้องการสินค้าที่เกี่ยวเนื่องไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทิศทางของพรีไซซในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตได้ดี และในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังไม่ได้รับกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดมากนัก เนื่องจากมีการปรับแผนต่างๆตามสถานการณ์ตลอดช่วง ส่งผลให้พรีไซซในครึ่งปีหลังนี้มีผลงานเติบโตอย่างโดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญ
อนึ่ง PCISE เคยยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 9 ต.ค.61 เนื่องจากบริษัทต้องการจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 307 ล้านหุ้น และจะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีธนาคารซีไอเอ็มบี เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แต่ได้ถอนไฟลิ่งไปเมื่อปีที่แล้ว