หุ้น INET ราคาพุ่งขึ้น 7.33% มาอยู่ที่ 3.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท มูลค่าซื้อขาย 28.32 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.18 น. โดยเปิดตลาดที่ 3.06 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.24 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.06 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์นว่า เบื้องต้น บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) มีความน่าสนใจจาก INET เป็นตัวแทนสำหรับการเติบโตของธุรกิจ Cloud ของประเทศไทย และการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน REIT (ขายเพียง IDC-3 Phase 1 ไม่ใช่สินทรัพย์ทั้งหมด) หากสำเร็จได้เงินสด 4.8 พันล้านบาท (ยังไม่หักส่วนที่ต้องลงทุนกลับ) มากกว่า Market Cap ที่ 1.5 พันล้านบาท อีกทั้ง INET ผ่านรอบลงทุนหนักไปแล้ว IDC-3 เฟส2 พร้อมใช้งานแล้วอยู่ระหว่างรอ Ramp up และ 5G ในปี 2564 จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุค Digital ในประเทศไทย
ทั้งนี้ อิงประมาณการของที่ปรึกษาทางการเงิน (สมมติให้ Cloud เติบโตต่อเนื่อง) และกรอบการซื้อขายในอดีต Valuation ที่เป็นไปได้ ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ราว 5.00 บาทต่อหุ้น
การเข้ามาของ 5G Automation Big Data และ IoTs ใน 3-5 ปีข้างหน้าจะเป็นตัวเร่งให้เอกชนทุกอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการลงทุนด้าน IT โดยเฉพาะระบบ Cloud เป็นโอกาสสำคัญของ INET ในการเติบโตในระยะยาว อิงข้อมูลจาก Gartner ตลาด Cloud มีการเติบโตราว 40% CAGR (2551-2563) และคาดขยายตัวต่อเนื่องที่ 6% ในปี 2563 และ 19% ในปี 2564 จึงคาดตลาดไทยจะขยายตัวตามตลาดโลก อิง ACCA (Asia Cloud Computing Association) ประเทศไทยมี score ของ Asia-Pacific Cloud Readiness Index (CRI) ปี 2563 อยู่ที่อันดับ 9 หรือเป็นหนึ่งในตลาดแถวหน้า
การลงทุนใน Data Center และ Cloud ที่มีคุณภาพต้องใช้เงินลงทุนสูง นอกจากนี้ผู้ประกอบการในประเทศอย่าง INET ต้องเร่งทำตลาดล่วงหน้าก่อนหน้าคู่แข่งในต่างประเทศอย่าง Amazon จะก้าวเข้ามามีบทบาท การลงทุนล่วงหน้าตลาดเพื่อสร้าง INET-IDC3 ทำให้ INET ต้องเพิ่มทุนในปี 2559 และมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ณ สิ้นไตรมาส 2/63 สัดส่วน Interest bearing debt to equity อยู่ที่ 1.74x
อย่างไรก็ดี หลัง IDC-3 เฟส1 มี Utilization 70% INET ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นสำหรับแผนการขายสินทรัพย์ดังกล่าวเข้ากอง REIT มูลค่าราว 4.8 พันล้านบาท โดย INET จะเช่าสินทรัพย์กลับเพื่อใช้งาน 25 ปี และถือสัดส่วนในกองทุนไม่เกิน 50% เงินสดรับหลังหักเงินลงทุนในกองและค่าใช้จ่ายเพื่อปลดล็อคภาระหนี้สินที่สูง (INET คาดลดหนี้ได้ 1.6 พันล้านบาท) และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับเพื่อรองรับการเติบโตของ Cloud ในอนาคต ปัจจุบันกองทุนได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารยื่น filing จึงคาดเสนอขายได้ในช่วงไตรมาส 1/64 หากเกิดขึ้นจะปลดล็อกงบดุลให้พร้อมรองรับการเติบโตในยุค 5G