นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 273,881 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 8,532.14 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในส่วนของมาตรการล็อกดาวน์ ,เคอร์ฟิว และการเลื่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ เป็นต้น ขณะที่ปัจจุบันเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากมาตรการของทางภาครัฐ และภาคเอกชนที่ช่วยกันกระตุ้นเศษฐกิจ โดยบริษัทก็คาดหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"เรามองว่าแย่ที่สุดน่าจะผ่านไปแล้ว แต่ก็ต้องเรียนตามตรงว่าตัวเลขในปัจจุบันก็ยังเป็นตัวเลขที่ไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่"นายเกรียงชัย กล่าว
นายเกรียงชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการที่กลุ่มบริษัทได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้าน 7-Eleven ในลาวนั้น เชื่อว่าจะทำให้เป็นโอกาสในการขยายสาขาระยะยาว เพราะลาวเป็นประเทศที่จะเปิดธุรกิจได้ต่อไปในอนาคต แต่ปัจจุบันการเดินทางไปเปิดธุรกิจยังเป็นไปได้ยาก เนื่องจากยังมีสถานการณ์โควิด-19
สำหรับการบริหารจัดการเงินทุนต่าง ๆ บริษัทฯ ก็มีแผนออกหุ้นกู้ วงเงิน 25,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้อายุ 4 ปี 9 เดือน 1 วัน กำหนดอัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี คาดว่าจะเสนอขายในช่วงปลายเดือนก.ย.63 โดยจะขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมก่อนและจากนั้นจะเปิดขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปใช้คืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดอายุในเดือนต.ค.นี้ ส่วนการระดมทุนด้วยการเพิ่มทุนนั้น บริษัทฯ ยังไม่เห็นถึงความจำเป็นในขณะนี้ เนื่องด้วยอัตราส่วนหนี้สิน (D/E) ยังมีเสถียรภาพเพียงพอ
"CPALL ยังเป็นบริษัทที่มีความมุ่งมั่นที่จะมองถึงผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ในขณะเดียวกันในช่วงที่ยากลำบากแบบนี้ ยอดขายเราลดลง กำไรเราลดลง แต่เราก็มีความพยายามที่จะฟื้นกลับขึ้นมาให้ได้ แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันบางช่วงเราก็ไม่ได้มองแค่ Maximize Profit แต่เราอาจจะต้องมองว่า Optimize Profit หรือแทนที่เราจะมุ่งหากำไรในระยะสั้นอย่างเต็มที่ เราอาจจะต้องมุ่งหากำไรและผลตอบแทนในระยะยาว และไม่ใช่ตัวเงินเท่านั้น แต่มองไปถึงความยั่งยืน สังคม การพัฒนาองค์รวมช่วยให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน" นายเกรียงชัย กล่าว