(เพิ่มเติม) บอร์ด THAI ให้ทบทวนแผนวิสาหกิจ 10 ปีในด้านการเงิน

          ร.ท.อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการTHAI มีมติอนุมัติในหลักการแผนวิสาหกิจ 10 ปี(2551-2560) แต่ให้ฝ่ายบริหารกลับไปทบทวนรายละเอียดของทางเลือก 2 แนวทางที่มีการนำเสนอไว้ ซึ่งมีจำนวนเงินลงทุนที่แตกต่างกันประมาณ 8 หมื่นล้านบาท โดยให้นำมาเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาอีกครั้ง
          "เราต้องไปดู financial plan ว่าจะจัดหาเงินทุนแต่ละปีเท่าไหร่ ภายใน 10 ปี เพราะแต่ละปีจะมีเครื่องบินเข้ามาไม่เท่ากัน ซึ่งบอร์ดจะมาดูเรื่องนี้ในการประชุมครั้งต่อไป" ร.ท.อภินันทน์ กล่าว
          แนวทางเลือกที่นำเสนอคณะกรรมการฯ มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน แต่หากเลือกแนวทางที่จะปลดระวางเครื่องบินเก่าอายุ 25 ปี จำนวน 35 ลำ เงินลงทุนช่วง 10 ปีจะลดลง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ที่อยู่ในข่ายที่จะปลดระวาง
          สำหรับแนวทางแรก จะมีการจัดหาเครื่องบินใหม่ 65 ลำ จำนวนเงินลงทุน 3.5 แสนล้านบาท โดยจะเป็นการจัดหาเครื่องบินใหม่เพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าที่มีอายุ 20 ปีจำนวน 47 ลำ 
          ส่วนแนวทางที่ 2 จะมีการจัดหาเครื่องบินใหม่ 53 ลำ จำนวนเงินลงทุน 2.6-2.7 แสนล้านบาท โดยจะเป็นการจัดหาเครื่องบินใหม่เพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าขนาดใหญ่และใช้ในระยะไกล ซึ่งมีอายุ 25 ปี จำนวน 35 ลำ
          ร.ท.อภินันทน์ กล่าวว่า จากที่ได้พิจารณาในแผนวิสาหกิจนั้น การจัดหาเครื่องบินส่วนใหญ่จะเป็นการจัดหาเครื่องบินพิสัยกลาง ซึ่งแต่ละปีฝ่ายบริหารจะต้องพิจารณาว่าจะสั่งซื้อเครื่องบินจากประเทศใดรุ่นใด ขึ้นอยู่กับแผนการตลาด
          ทั้งนี้ ตามแผนวิสาหกิจดังกล่าว คาดว่าจะสามารถทำรายได้ให้แก่ THAI เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4-5% ต่อปี          
          ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ประธานคณะกรรมการ THAI กล่าวว่า จะมีการทบทวนแผนวิสาหกิจโดยเฉพาะด้านการเงิน โดยจะเรียกประชุมเพื่อพิจารณาแผนวิสาหกิจอีกครั้งภายในเดือนส.ค.หรือ ก.ย.นี้
          ร.ท.อภินันทน์ ยังกล่าวด้วยว่า คณะกรรมการได้อนุมัติปรับโครงสร้างฝ่ายบริหาร โดยได้ยุบระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ 3 ฝ่าย ซึ่งได้แก่ ตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายรักษามาตรฐานและบริหารความเสี่ยง, ตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายวางแผนและงานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายบริหารทั่วไป รวมถึงยุบระดับผู้อำนวยการใหญ่ อีก 2 ฝ่าย เพื่อให้การบริหารงานมีความคล่องตัวมากขึ้น