(เพิ่มเติม) PRO สรุปดีลร่วมทุนใน H2/50, รับปีนี้ยังขาดทุน หลังรง.สระแก้วเปิดล่าช้า

         นายเกรียงไกร เลิศศิริสัมพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายบัญชีการเงินและบริหารสำนักงาน บมจ. โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี(1999) หรือ PRO กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนในโครงการ Mercury Recovery คาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาท โดยบริษัทเข้าถือหุ้น 80% เตรียมเซ็นสัญญาในไตรมาส 3 ปีนี้ ด้านโครงการรีไซเคิลอะลูมิเนียมคาดจะใช้เงินลงทุน 120 ล้านบาท โดยบริษัทจะเข้าเทคโอเวอร์กิจการของคนไทยรายหนึ่งซึ่งจะสรุปได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อเข้าถือหุ้น 100%โดยเงินลงทุนดังกล่าวมาจากกระแสเงินสด 50% บริษัทจะกู้เงินอีก 50% 
          "ทั้ง  2 โครงการคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 140 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีกระแสเงินสดที่เพียงพอสำหรับการลงทุนอยู่ 250 ล้านบาท" นายเกรียงไกร กล่าว 
          สำหรับปีนี้บริษัทยังคงขาดทุนต่อเนื่องจากที่มีปัญหาสิ่งแวดล้อมกับชาวบ้านและต้องปิดโรงงานที่สระแก้วไป และเพิ่งเริ่มดำเนินการได้เมื่อวันที่ 1 ส.ค.50 ซึ่งช้ากว่าแผนที่คาดการณ์ไว้
          ไตรมาส 2/50 บริษัทมีผลขาดทุนสะสม 150 ล้านบาท และจะเพิ่มอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ จึงทำให้บริษัทคาดว่าจะล้างขาดทุนสะสมหมดไนปี 52 จากก่อนหน้านี้เคยคาดไว้เป็นปี 51 
          นายเกรียงไกร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในปี 51 คาดว่าจะสามารถดึงลูกค้าเก่าจากที่เคยมีอยู่ 900 รายกลับมาได้ ประกอบกับการมีธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริม จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทโตก้าวกระโดดได้จากปกติที่มีรายได้ปีละ 300 ล้านบาท
          สำหรับโครงการขยายธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง นอกเหนือจากธุรกิจฝังกลบขยะที่มีปัญหานั้น บริษัทได้หาธุรกิจ คือ บริษัท E-Waste ที่ร่วมกับสิงคโปร์ เข้าถือหุ้น 60% ใช้เงินลงทุนทั้งโครงการ 250 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการปีแรกในปี 51 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท และภายใน 3 ปีจะมีรายได้ถึง 500 ล้านบาทต่อปี 
          โครงการ Mercury Recovery นั้น บริษัทถือหุ้น 80% ร่วมกับพันธมิตรจากยุโรป งบลงทุนทั้งโครงการ 150 ล้านบาท แต่เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาท คาดว่าจะให้รายได้ต่อปีประมาณ 60-80 ล้านบาท 
          ส่วนโครงการรีไซเคิลอะลูมิเนียมที่บริษัทจะเข้าเทคโอเวอร์กิจการคนไทย 100% มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท โดยคาดว่าจะให้รายได้ต่อปี 250 ล้านบาท และตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะเพิ่มรายได้เป็น 500 ล้านบาท 
          นอกจากนี้ บริษัทมีแผนลงทุนผลิตเชื้อเพลิงจากขยะในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นจะกลายเป็นรายได้หลักให้กับบริษัท