(เพิ่มเติม) TTA ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 50 โตกว่า 20% , เล็งขายหุ้นกู้ให้ทันปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 20, 2007 14:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA) ปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในงวดปี 50(สิ้นสุด ก.ย.50) เพิ่มเป็นมากกว่า 20% จากเดิมคาดไว้ที่ 10% เนื่องจากค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าค่าระวางเฉลี่ยในปีนี้จะใกล้เคียงกับงวด 9 เดือนแรกที่อยู่ในระดับ 14,559 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน 
"แนวโน้มค่าระวางเรือยังอยู่ในระดับสูงจนถึงธ.ค.นี้ จากความต้องการใช้เรือยังขยายตัวต่อเนื่องที่คาดไว้โต 5-6% ในปีนี้ และจากที่ท่าเรือมีความแออัดมาก ทำให้จำนวนเรือวิ่งไป-มาลดลง จาก 2 ปัจจัยนี้ ทำให้ค่าระวางปรับขึ้นพอสมควร"ม.ล.จันทรจุฑา จันทรฑัต กรรมการผู้จัดการ TTA กล่าว
แต่รายได้ในไตรมาส 4/50 คาดจะปรับลดลงจากไตรมาส 3/50 ที่มีรายได้รวม 5.4 พันล้านบาท เนื่องจากบมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ (MML) บริษัทย่อยได้นำเรือขุดเจาะ 2 ลำไปซ่อมบำรุงทำให้รายได้ส่วนนี้หายไป และมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ประกอบกับ คาดว่าค่าระวางเรือในไตรมาส 4 คงจะไม่สูงไปกว่าไตรมาส 3 ที่ระดับ 16,550 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน หรืออาจจะต่ำกว่าเล็กน้อย โดยได้ทำสัญญาล่วงหน้าไว้ ในช่วง 2-3 เดือนนี้แล้ว
บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาสั่งต่อเรือเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 ลำ ซึ่งใกล้ได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะส่งมอบได้ราวปี 53 และมีแผนจะทยอยสั่งต่อเรือเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามความต้องการตลาด ส่วนที่สั่งต่อเรือก่อนหน้านี้ 2 ลำ บริษัทจะได้มอบในปี 51 จำนวน 1 ลำ และในปี 53 อีก 1 ลำ โดยมีขนาดบรรทุกประมาณ 5 หมื่นเดทเวทตัน
ขณะเดียวกัน บริษัทอาจจะยืดอายุการใช้เรือที่มีอายุจำนวนมากกว่า 25 ปี แม้ว่าในช่วง 5 ปีนี้บริษัทจะมีเรือที่มีอายุมากกว่า 25 ปีจำนวน 25 ลำ ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการใช้เรือไปก่อนขณะที่การสั่งต่อเรือใหม่ต้องใช้เวลา โดยบริษัทคาดว่าต้องการมีกองเรือ 40-50 ลำ และขนาดบรรทุกเพิ่มขึ้น 20-30% ในช่วง 5 ปี จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 2.8 หมื่นเดทเวทตัน/วัน มีจำนวนกองเรือ 45 ลำ
เนื่องจากตลาดเอเชียยังเติบโตดีมาก โดยเฉพาะในจีน อินเดีย ความต้องการใช้เรือเพิ่มสูงจากาภวะเศรษฐกิจ
สัดส่วนกำไรสุทธิ มาจากกลุ่มธุรกิจเรือบรรทุสินค้าแห้งเทกอง 86.66% กลุ่มธุรกิจงานบริการนอกชายฝั่ง 10.79%(ธุรกิจจากMML) และ กลุ่มบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือง 2.55%
*รอจังหวะออกหุ้นกู้แปลงสภาพให้ทันปีนี้
ส่วนแผนออกหุ้นกู้แปลงสภาพวงเงินประมาณ 170 ล้านเหรียญสหรัฐนั้นแม้ว่าทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)อนุมัติแล้วก็ตาม แต่บริษัทกำลังรอดูจังหวะที่เหมาะสมในการเสนอขาย โดยหวังว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันภายในปีนี้ หลังจากความผันผวนของตลาดคลี่คลายลง โดยเฉพาะกรณีซับไพรม์ เพราะหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวจะขายนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศ
ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าว จะนำไปรีไฟแนนซ์หนี้ต่างประเทศจำนวนประมาณ 155 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อยืดอายุหนี้ และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทลดต่ำกว่าปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ 7.7% และยังมีกระแสเงินสดเพื่อไปชำระเรือใหม่ที่จะเข้ามา โดยจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่
ส่วนการนำ MML เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ กรรมการผู้จัดการ TTA กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติไฟลิ่งของทางการสิงคโปร์ ขณะเดียวกันก็ได้ขอผ่อนผันเงื่อนไขหลายเรื่องที่ใช้กับบมจ.ไทยเบฟเวอเรจ เช่น การใช้มาตรฐานบัญชีก็ขอให้ใช้มาตรฐานบัญชีไทยแทน
"ณ เวลานี้ เรายังไม่แน่ใจ เพราะว่าเราได้ไฟลิ่งไปยังตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งเราก็รออยู่ ตอนนี้สัดส่วนที่จะกระจายหุ้นก็ยังไม่ตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับว่าจะขยายโครงการใหญ่ขนาดไหน แต่หุ้นที่จะกระจายจะเป็นหุ้นเพิ่มทุนใหม่" ม.ล.จันทรจุฑา กล่าว
ทั้งนี้ ทุนจดทะเบียนของ MML อยู่ที่ 674.53 ล้านบาท โดย TTA ถือหุ้น 78%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ