นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บล. เคทีบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ ชื่อร้าน "เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์" เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนเดินสายนำเสนอข้อมูลบริษัทให้กับนักลงทุนที่หาดใหญ่ในวันที่ 9 กันยายน และที่กรุงเทพฯ วันที่ 21 กันยายนนี้ เพื่อให้นักลงทุนรู้จักและเข้าใจลักษณะการดำเนินธุรกิจของ KK มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงแผนการดำเนินงานในอนาคตของ KK และยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
การโรดโชว์ครั้งนี้เพื่อให้นักลงทุนรับรู้ข้อมูล ก่อนที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 69 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ และเสนอขายหุ้นสามัญส่วนเกินอีกจำนวน 10.35 ล้านหุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในไตรมาส 4/2563
สำหรับความน่าสนใจของ "เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น" คือ การเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านร้านสาขา "เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์" มีจำนวน 28 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูล รวมถึงบริษัทฯมีศูนย์กระจายสินค้าสินค้าจำนวน 1 แห่งที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และดำเนินธุรกิจมากว่า 27 ปี อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรทางการค้ากับ Supplier ชั้นนำหลายๆ แห่ง
ขณะที่ผลการดำเนินงานยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกำลังซื้อของประชาชนในพื้นที่ที่ยังคงอยู่ในระดับที่ดี และสินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า 8,000 รายการ เพื่อรองรับความต้องการสินค้าในรูปแบบต่างๆ ของลูกค้าที่มาซื้อสินค้าในร้านสาขา และลูกค้าค้าส่งที่ต้องการซื้อสินค้าไปเพื่อจำหน่ายต่อ ซึ่งในอนาคตบริษัทฯ มีแผนขยายร้านสาขาอย่างต่อเนื่องจำนวน 3-4 สาขาในแต่ละปี จึงน่าจะเป็นจุดเด่นที่ทำให้นักลงทุนสนใจ และได้รับการตอบรับที่ดี
ด้านนายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ KK กล่าวว่า การโรดโชว์ให้กับนักลงทุนระหว่างวันที่ 9 กันยายน และวันที่ 21 กันยายนนี้ บริษัทฯ จะนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในลักษณะการประกอบธุรกิจ โดยมีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะนอกจากธุรกิจจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว ในอนาคตยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันกำลังซื้อของประชาชนในพื้นที่ยังอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งการตัดสินใจระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้บริษัทฯจะนำเงินไปใช้ในการขยายร้านสาขาเคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาและขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ที่สำคัญสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น
"ที่ผ่านมา KK มีพื้นฐานทางด้านธุรกิจที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด ส่งผลทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี และมีโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคตได้อีกมาก อีกทั้งแบรนด์ "เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์" ยังได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพสินค้าและบริการ และความหลากหลายของสินค้า ซึ่งจากจุดเด่นที่กล่าวมานั้น ทำให้เชื่อว่าเมื่อหุ้น KK เข้าระดมทุนในตลาด mai จะทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุน" นายกวิศพงษ์ กล่าว