ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,303.45 จุด ลดลง 8.50 จุด (-0.65%) มูลค่าการซื้อขายราว 22,829 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,305.85 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,295.63 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง ส่วนหนึ่งเกิดจากการชดเชยในช่วงที่ตลาดบ้านเราได้ปิดทำการเมื่อวันศุกร์และวันจันทร์ ตลาดสหรัฐฯได้เจอแรงขายทำกำไรจากการลดความร้อนแรงของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดสหรัฐฯ อีกทั้งตลาดฯยังมีความผันผวนที่เกิดจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ได้สูงขึ้น และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มักจะเกิดก่อนการเลือกตั้ง ส่งผลให้เผชิญแรงขายทำกำไรของหุ้นที่มี Valuation แพง อย่างหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า
ทั้งนี้ มองช่วงสั้นตลาดฯเผชิญกับปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของ Downside แม้สภาพคล่องในตลาดฯจะมีมากและเป็นบวกต่อการลงทุนก็ตาม โดยมอง Downside ไว้ที่ 1,255-1,269 จุด เป็นแนวรับที่น่าสนใจสำหรับโอกาสในการลงทุน ก็แนะนำให้ซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมแนะให้ติดตามปัจจัยการเมืองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเฉพาะให้จับตางบประมาณปี 64 จะสามารถผ่านการพิจารณาของสภาฯไปได้หรือไม่
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะมีกรอบการฟื้นตัวที่จำกัด โดยให้แนวรับ 1,296 จุด ส่วนแนวต้าน 1,306 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,651.88 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,200.02 ล้านบาท ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
SCM มูลค่าการซื้อขาย 880.49 ล้านบาท ปิดที่ 2.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 698.85 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 576.57 ล้านบาท ปิดที่ 82.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง