นายพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า ธนาคารให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการนำนวัตกรรมมาพัฒนาบริการเพื่อสนับสนุนธุรกิจลูกค้าในยุคดิจิทัลให้ได้รับประโยชน์ที่ดียิ่งขึ้น สำหรับในครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จอีกครั้งกับความไว้วางใจที่ธนาคารได้รับจาก บริษัท จีซี มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด (GCM) บริษัทในกลุ่มบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักด้านเคมีภัณฑ์ของกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) ร่วมศึกษาและพัฒนาการทำธุรกรรมเปิด Letter of Credit หรือ L/C ระหว่างประเทศไทยกับเวียดนาม ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดบน Beta Network ของ ‘Contour’
โดยใช้ Enterprise Blockchain Platform ในการดำเนินการให้ OPEC Plastics Joint Stock Company ประเทศเวียดนาม คู่ค้าของ GCM สามารถเปิด Electronics L/C ผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาฮานอย ส่งมายังธนาคารกรุงเทพ ประเทศไทย เพื่อให้ GCM สามารถส่งสินค้าออกตามข้อตกลงที่ระบุใน L/C โดยธนาคารกรุงเทพเป็นธนาคารแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาการให้บริการดังกล่าว และเป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้นำในการทำการศึกษาและพัฒนาการทำธุรกรรม L/C ระหว่างประเทศไทยกับอินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศในเอเชียเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา
ความสำเร็จในครั้งนี้ตอกย้ำจุดเด่นของ Contour ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งและจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ โดยมีธนาคารและองค์กรชั้นนำของโลกกว่า 11 แห่ง รวมทั้งธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นธนาคารไทยแห่งแรก ร่วมเป็นผู้ถือหุ้นและเข้าร่วมโครงการ Contour กับกลุ่มพันธมิตร R3 ตั้งแต่เริ่มต้น ในการร่วมกันปฏิวัติรูปแบบการทำธุรกรรมด้านการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) บน Enterprise Blockchain Platform ตลอดจนพัฒนาเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้าระหว่างประเทศ ที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพ
รวมถึงการลดข้อจำกัดด้านการค้าระหว่างคู่ค้า ด้วยจุดแข็งในด้านเครือข่ายสาขาของธนาคารกรุงเทพที่ครอบคลุมในเขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และอาเซียน ที่สามารถช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศของโครงการ Contour ให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคที่สำคัญของโลก รวมถึงภูมิภาคเอเชีย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในภาคธุรกิจนำเข้าและส่งออกได้จริง ไม่ว่าคู่ค้าจะอยู่ในภูมิภาคใดของโลก
นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำธุรกรรมของลูกค้าสามารถสำเร็จได้อย่างรวดเร็วด้วยการนำรูปแบบดิจิทัลมาใช้ทั้งกระบวนการ ทำให้คู่ค้าทุกฝ่ายสามารถเห็นข้อมูลพร้อม ๆ กัน บน Enterprise Blockchain Platform เดียวกัน ซึ่งจะทำให้การเปิด L/C ดำเนินการได้อย่างง่ายดาย คล่องตัว และรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งมีความโปร่งใส มีความปลอดภัยสูง สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน โดยการศึกษาพัฒนาครั้งนี้ได้ลดระยะเวลาการดำเนินการและลดการใช้เอกสารลง ทำให้การตรวจสอบข้อมูลระหว่างกัน (Reconciliation) ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะจัดเก็บข้อมูลชุดเดียวกันและรับทราบการเปลี่ยนแปลงสถานะไปพร้อมๆ กัน นับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านธุรกิจของลูกค้าและบริการธนาคาร
นางสาวดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี ของ PTTGC เปิดเผยว่า ปัจจุบัน PTTGC และบริษัทในเครือ ได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) มาประยุกต์ใช้ในบริษัทเพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศทางด้านธุรกิจปิโตรเคมิคอลอย่างยั่งยืน บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน มาเสริมประสิทธิภาพของระบบการจัดการทั้งภายในและภายนอกของบริษัทให้มีความรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีบล็อกเชน มาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจของ GCM ซึ่งทำหน้าที่เป็น Trading Flagship ของบริษัท โดยคู่ค้าของ GCM ก็สามารถตรวจสอบรายละเอียดของธุรกรรมได้ชัดเจน และมีความโปร่งใสทั้งกระบวนการ สำหรับธุรกรรมล่าสุดที่ใช้กับทางบริษัทคู่ค้าในประเทศเวียดนาม (OPEC Plastics Joint Stock Company) และธนาคารกรุงเทพนั้น ถือว่าเป็น Trade Digitization บนเครื่องมือการรับชำระเงินแบบ Letter of Credit ภายใต้เทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งบริษัท Contour เป็นผู้ให้บริการแพล็ตฟอร์มดังกล่าว ทำให้ลดระยะเวลาในการดำเนินการลงจาก 3 สัปดาห์โดยประมาณเหลือเพียงแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้นสอดรับกับสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต ที่จะต้องมีความรวดเร็วและปลอดภัยในการทำธุรกรรม
นอกจากนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์และเอื้อประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ บริษัทสามารถลดปริมาณการใช้กระดาษได้เป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการปัจจุบันของ Letter of Credit ที่ผู้ขายต้องสำแดงเอกสาร (Document Presentation) ในรูปแบบกระดาษทั้งหมดในการเรียกเก็บเงินจากธนาคารผู้เปิด Letter of Credit
นายฐิติพล อาจสัญจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีซี มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า นับเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นของ GCM ในการร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ เพื่อใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจตามวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัทฯ โดยการทำธุรกรรมระหว่างไทย-เวียดนามบน Contour application ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง กระบวนการออกเอกสาร L/C สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ใน 1 ชั่วโมง เพราะรูปแบบธุรกรรมได้ปฏิวัติเป็นแบบ digital ข้อมูลทุกอย่างจะ update แบบ real-time ลดต้นทุนด้านเอกสารและการบริหารจัดการ เงื่อนไขต่าง ๆ สามารถตกลงหรือแก้ไขระหว่างคู่ค้าได้ทันทีบน platform เดียวกัน ทำให้ทุกฝ่ายมี visibility ของข้อมูล และสามารถใช้ในการวางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น