นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการบมจ. อาปิโก ไฮเทค(AH) คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ 9.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงจากเป้าเดิมที่บริษัทตั้งไว้ที่ 10,000 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในประเทศที่อัตราการเติบโตของตลาดรถยนต์ลดลง 1-2% แม้ว่าส่งออกเพิ่มขึ้น 20%
ครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 4.4 พันล้านบาท และคาดว่าในครึ่งปีหลังยอดขายจะดีกว่าครึ่งปีแรกหรือมียอดขายอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท เนื่องจากจะมีออเดอร์จากอุปกรณ์จับยึดรถยนต์เข้ามาในไตรมาส 3-4 จำนวน 160 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้รายได้จะลดลงเล็กน้อยแต่เชื่อว่าในส่วนของกำไรสุทธิจะเติบโต 30% ได้
นายเย็บ ชู ชวน กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจะสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แห่งใหม่ เพื่อรองรับคำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์โมเดลใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาด ขณะนี้ซื้อที่ดินไว้แล้ว 100 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร คาดว่าจะใช้เงินลงทุนในโรงงานใหม่ประมาณ 2 พันล้านบาท เริ่มผลิตได้ในปี 52
สำหรับเม็ดเงินดังกล่าว AH อาจจะไม่ต้องลงทุนเองทั้งหมด โดยบริษัทกำลังพิจารณาโอกาสที่จะร่วมมือกับพันธมิตร เช่น ชิ้นส่วนบางประเภทอาจจะร่วมกับพันธมิตรรายหนึ่งรายใด หรือเป็นการลงทุนเอง ซึ่งในส่วนที่บริษัทลงทุนเองก็จะกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ เพราะ DE ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.7 เท่า ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 1,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น คงไม่จำเป็นที่ต้องเพิ่มทุน
นายเย็บ ชู ชวน กล่าวว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก แม้ในขณะนี้จะชะลอไปบ้าง เนื่องจากค่ายรถยนต์ที่จะเข้ามาลงทุนในไทยใน 2-3 ปีข้างหน้าจะมีมูลค่ากว่า 2-3 แสนล้านบาท
ส่วนโรงงานที่บริษัทมีแผนที่จะขยายเพิ่มที่ประเทศจีนและอินเดียนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาแต่ไม่ได้พับแผน ซึ่งบริษัทก็อยากจะมุ่งเน้นและปรับกลยุทธ์ในส่วนกิจการเดิมของ KPN ก่อน
"คงต้องยอมรับว่าเมื่อธุรกิจรถยนต์ชะลอ ที่เกิดจากเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ ก็คงไม่แปลกที่ธุรกิจในเมืองไทยชะลอและของเราก็ชะลอไปด้วย แต่ดีที่เรามีการผลิตเพื่อส่งผ่านให้กับค่ายรถยนต์ที่ส่งออกไปขายต่างประเทศทำให้สามารถมาชดเชยกันได้แต่เราก็ยังหวังว่าในครึ่งปีหลังที่เหลือจะดีขึ้น เพราะเท่าที่ดูยังมีการย้ายฐานการผลิตมาในประเทศหลายราย"นายเย็บ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/จำเนียร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--