ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดพุ่งขึ้นในวันนี้(27 ส.ค.) แต่ดัชนีถอยร่นลงจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนัลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปอย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิกซ์ และไฮนิกซ์หลังจากที่ราคา spot price ของชิป DRAM ทรุดตัวลดลงเมื่อช่วงที่ผ่านมา
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นช่วงเช้าเป็นไปอย่างแข็งแกร่งตามการปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยดัชนีคอมโพสิตสามารถไต่ระดับขึ้นทะลุระดับ 1,800 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ดัชนีถอยร่วงลงจากระดับสูงสุด เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมามีความวิตกกังวลในช่วงสาย ขณะที่ตลาดรอการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ รวมถึงการจับตารายงานข้อมูลผลผลิตของเกาหลีใต้ประจำเดือนก.ค.ที่มีกำหนดจะประกาศในวันพุธนี้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิต ปิดบวกขึ้น 11.7 จุด หรือ 0.7% แตะที่ระดับ 1,803.03 จุด หลังจากเคลื่อนตัวแตะระดับสูงสุดของวันที่ 1,834.65 จุด
คิม จิง-ฮุน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์กู้ดมอร์นิ่ง ชินฮานเปิดเผยว่า "แรงหนุนในช่วงเช้าถูกบั่นทอนลงจากความหวั่นวิตกของนักลงทุนที่ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา"
คิมกล่าวว่า ตลาดเริ่มที่จะเคลื่อนไหวอย่างมีทิศทางในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนต้องการเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ท่ามกลางวิกฤติตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและปัญหาด้านสินเชื่อ
โดยปริมาณการซื้อขายในวันนี้มีอยู่อย่างเบาบางเพียง 358 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 4.9 ล้านล้านวอน
หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกซ์ปิดทรุดลง 1.5% และหุ้นไฮนิกซ์ปิดลบ 3.4% หลังจากที่ราคา spot prices ของชิป DRAM ในตลาดปรับตัวลดลงเกือบ 5% เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่หุ้นปอสโคปิดพุ่งขึ้น 4.5% จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าราคาเหล็กจะปรับตัวสูงขึ้น
ด้านหุ้นกลุ่มต่อเรือปิดพุ่งขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากที่หุ้นในกลุ่มนี้ร่วงลงเมื่อช่วงที่ผ่านมา โดยหุ้นฮุนได เฮฟวี่ปิดทะยานขึ้น 5.8% หุ้นแดวู ชิ้ปบิลดิ้งปิดบวก 3.4% หลังจากที่มีการยืนยันว่าบริษัทมีแผนที่จะสร้างท่าเรือลอยน้ำขนาดใหญ่ที่สุดเพื่อรองรับอุปสงค์ด้านเรือขนส่งขนาดใหญ่ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
หุ้นเกียมอเตอร์ปิดร่วงลง 4% จากเหตุพนักงานในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของเกาหลีใต้ผละงานประท้วงจนทำให้ผลผลิตของบริษัทชะลอตัวลง โดยโฆษกของเกียคาดว่าบริษัทจะสูญเสียยอดการผลิตรถจำนวน 3,200 คันซึ่งคิดเป็นมูลค่า 4.3 หมื่นล้านวอน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--