นายปิยะ จงวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บมจ.พัฒน์กล(PATKL)เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งหน่วยงานขายและทีมงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสของการขยายงาน เพราะปัจจุบันมีการใช้ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเคมีเข้ามาแทนที่วัสดุจากธรรมชาติมากขึ้น ส่งผลให้แต่ละปีมีจำนวนโรงงานปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นทั้งที่สร้างใหม่และขยายโรงงานจากเดิม
"จากสถานการณ์ดังกล่าว บริษัทจึงขยายธุรกิจปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น จึงตั้งหน่วยงานขายทั้งในส่วนของการผลิตอุปกรณ์สำหรับโรงงาน อาทิ ถังความดัน แทงค์ ไพพิ่ง หอกลั่น ถังรับความดัน-แลกเปลี่ยนอุณหภูมิ โดยมีโรงงานรองรับการผลิตถึง 2 จุด ที่บางพลี และ เพชรบุรี" นายปิยะ กล่าว
นายปิยะ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้ตั้งหน่วยงานขายขึ้นมารับผิดชอบโดยเฉพาะ แต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นธุรกิจที่จะช่วยสนับสนุนรายได้ให้กับบริษัทถึง 3% ต่อปี ซึ่งในอนาคตจะเติบโตได้ปีละ 20-30% ของรายได้เดิม โดยมีลูกค้าเดิมทั้งหมด 25 ราย ได้แก่ บมจ.บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย(TPI)ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.ไออาร์พีซี(IRPC), บริษัท ไบเยอร์ ไทย จำกัด, บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ (TPC) เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนการวิจัยและพัฒนางานด้านเอทานอล และอยู่ในระหว่างศึกษาไบโอดีเซล เพื่อให้สามารถเติบโตในงานด้านพลังงานทดแทนต่อไปในอนาคตทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากคาดว่าในระยะยาวธุรกิจพลังงานทดแทนยังสดใส จากนโยบายการสนับสนุนของรัฐบาล
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--