นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล (BM) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 423.56 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 7.43 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ หลังจากหมดหน้าฝนก็จะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว โดยปกติจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ค.และจะเข้าสู่จุดพีคสุดในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับบริษัทยังคงรัษาฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ได้อย่างต่อนื่อง
บริษัทยังประมาณการงานในมือ (Backlog) ของสินค้าหมวดที่ 1 หรือรางและท่อสายไฟฟ้าที่ขายให้กับกลุ่มรับเหมาเป็นหลักในช่วงครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 260 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกมีอยู่ราว 210 ล้านบาท โดยปกติแล้วรายได้ต่อปีของหมวดนี้จะอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาคเอกชน เช่น คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า และโรงงานต่างๆ ราว 70% ของ Backlog และงานภาครัฐ เช่น งานรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีเหลือง และสายสีชมพู อีกทั้งงานสนามบิน และโครงการอื่นๆ ของภาครัฐ เป็นต้น คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากงานในมือทั้งหมด 260 ล้านบาทภายในปีนี้
ส่วนสินค้าในหมวดอื่นๆ เช่น กลุ่มตู้โลหะ, ตู้ Switchboards ที่ขายให้กับกลุ่มผู้รับเหมา คาดว่าครึ่งปีหลังนี้จะปรับตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรกที่ชะลอตัว ขณะที่การขายให้กับกลุ่ม B2B น่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มโลหะเชื่อมประกอบ, งานอุปกรณ์และชิ้นส่วน ที่มีการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในครึ่งปีแรก โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทยังมียอดค้างผลิตอยู่อีกกว่า 300 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน สินค้าประเภทชิ้นส่วนโลหะ เช่น เครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ผลิตให้กับคูโบต้า คาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ
นายธีรวัต กล่าวว่า บริษัทก็มั่นใจว่างานในมือที่มีอยู่ของกลุ่มสินค้าที่ขายให้กลุ่มผู้รับเหมามีความชัดเจนอยู่แล้ว และกลุ่ม B2B หรืองานเชื่อมประกอบ แม้ครึ่งปีหลังจะเติบโตแต่คงไม่พุ่งแรงเหมือนกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็จะเข้ามาชดเชยกลุ่มชิ้นส่วนเครื่องจักรกลทางการเกษตร และชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น
รวมถึงการส่งออกที่คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากการมุ่งเน้นการขายสินค้าส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในแคนาดาเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนรายได้ในปี 63 ของ BM ให้เติบโตไปตามเป้าหมายที่ 10-20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 913.34 ล้านบาท
"ครึ่งปีหลังนี้เราจะเร่งดำเนินการส่งมอบงาน ไม่ว่าจะเป็นงานรถไฟฟ้า งานอุโมงค์ เพื่อให้รับรู้รายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันเราก็มองหาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจากนี้ไป และมีแผนการแข่งขันได้มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯ"นายธีรวัต กล่าว