(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 167.45 จุดแม้เฟดฉีดเงินเข้าระบบ

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดิ่งลงต่ออีกกว่า 160 จุดเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อของสหรัฐ แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคารเพิ่มขึ้นอีกก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 167.45 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 12,861.47 จุด ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.เป็นต้นมาที่ดาวโจนส์ปิดตลาดต่ำกว่าระดับ 13,000 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 รูดลง 19.84 จุด หรือ 1.39% ปิดที่ 1,406.70 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 40.29 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 2,458.83 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.99 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.33 พันล้านหุ้น 
          นางลินดา เดสเซล นักวิเคราะห์จากบริษัทเฟดเดอเร็ท อินเวสเตอร์ส กล่าวว่า นอกเหนือจากความกังวลเรื่องตลาดสินเชื่อและราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแล้ว ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวลือที่ว่าบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองอันดับ 1 ของสหรัฐกำลังเผชิญปัญหาการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นคันทรีไวด์ดิ่งลงกว่า 13% และวาณิชธนกิจเมอร์ริล ลินช์ได้แนะนำให้นักลงทุน "ขาย" หุ้นคันทรีไวด์ โดยกล่าวว่าหากสภาพคล่องในคันทรีไวด์เข้าขั้นวิกฤติ ก็อาจทำให้บริษัทล้มละลายได้
          "นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มการเงินอย่างหนักแม้เฟดได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคารเพิ่มขึ้นเพื่อคลี่คลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อก็ตาม อย่างไรก็ตาม เฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้นโยบายผ่อนปรนด้านการเงินด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้" นางเดสเซลกล่าว
          นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น 95 เซนต์ แตะระดับ 73.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นเหนือระดับ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน อันเนื่องจากรายงานของศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐที่ระบุว่า พายุโซนร้อน"ดีน" ได้ทวีความรุนแรงในทะเลคาริบเบียนและกำลังมุ่งหน้าไปยังฝั่งตะวันตก และคาดว่าความรุนแรงจะทวีขึ้นจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนภายในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่พายุโซนร้อน "เอริน" ได้พัดเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกแล้ว
          หุ้นคันทรีไวด์ร่วงลง 3.17 ดอลลาร์ หรือ 13.01% ปิดที่ 21.19 ดอลลาร์ หลังจากมีข่าวว่าบริษัทเผชิญปัญหาด้านการระดมทุน ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มการเงินร่วงลงด้วย โดยหุ้นเคเคอาร์ ไฟแนนเชียล ดิ่งลง 31% อย่างไรก็ตาม หุ้นธอร์นเบิร์ก มอร์ทเกจ ทะยานขึ้น 33% หลังจากบริษัทให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า บริษัทสามารถฝ่าฟันวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองได้