นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.ดีเฮ้าส์พัฒนา (DHOUSE) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ของ DHOUSE ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย.63
หลังจากนี้ บริษัทเตรียมเดินหน้านำเสนอข้อมูลธุรกิจของบริษัท (โรดโชว์) พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนรายย่อยและประชาชนทั่วไป โดยจะทำการโรดโชว์ 10 จังหวัด ทั่วประเทศไทย ประกอบด้วย ชลบุรี นครปฐม นครสวรรค์ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา และกรุงเทพมหานคร
"ธุรกิจของ DHOUSE มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต เนื่องจากกลุ่มผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ เป็นหนึ่งในผู้นำอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาฯ เป็นอย่างดี รวมถึงเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า จึงมีความสามารถในการทำกำไรที่ดี การเดินทางไปโรดโชว์จึงเป็นการนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนได้เข้าใจธุรกิจของบริษัทมากยิ่งขึ้น" นายสมภพ กล่าว
DHOUSE มีทุนจดทะเบียนจำนวน 420 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 311.40 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และอีกจำนวน 217.20 ล้านหุ้นจะเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นสัดส่วน 25.86% ทั้งนี้ DHOUSE เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ DHOUSE ในครั้งนี้
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DHOUSE กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย และเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ ด้วยประสบการณ์ที่มีมามากกว่า 10 ปี ทำให้ DHOUSE เป็นผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ระดับแนวหน้าของจังหวัดมหาสารคาม อีกทั้งอสังหาริมทรัพย์ในจ.มหาสารคามเติบโตเป็นอันดับ 5 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือรองจาก นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี และอุดรธานี ซึ่งมีโอกาสการขยายตัวอีกมาก ปัจจุบันมีโครงการที่ดำเนินการอยู่ คือ โครงการเดอะ แกรนด์ เรสซิเดนซ์, โครงการเดอะ แกรนด์ คาแนล, โครงการแกรนด์ บิซ, โครงการพฤกภิรมย์ ศาลากลาง และมีแผนที่จะเปิดตัวโครงยูปาร์ค และโครงการแกรนด์ บิซ 2 ในปีหน้า
"การระดมทุนของบริษัทในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแผนธุรกิจและแผนการตลาด ในโครงการพฤกภิรมย์ โครงการ U Park และโครงการแกรนด์ บิซ 2 และเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพ ก้าวสู่ความเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาฯภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อขยายโอกาส และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงินมากยิ่งขึ้น สร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว" นายพงศ์พจน์ กล่าว