(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:นลท.คลายวิตกตลาดสินเชื่อ ดันดาวโจนส์บวก 42.27 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 21, 2007 06:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดปล่อยกู้จำนองและตลาดสินเชื่อในสหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าแทรกแซงตลาดด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงและจากการที่นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อตั๋วเงินคลังระยะสั้น หลังจากก่อนหน้านี้นักลงทุนได้พากันเทขายหุ้นและแห่เข้าซื้อตั๋วเงินคลังประเภทดังกล่าว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 42.27 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 13,121.35 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.39 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 1,445.55 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 3.56 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 2,508.59 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.54 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.73 พันล้านหุ้น
เมื่อคืนวันนี้ศุกร์ที่ผ่านมา เฟดได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.50% สู่ระดับ 5.75% เพื่อบรรเทาความผันผวนในตลาดสินเชื่อ โดยเฟดกล่าวว่า "เนื่องจากตลาดการเงินและตลาดสินเชื่อตกอยู่ในภาวะตึงตัวและผันผวนอย่างหนัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจึงตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาด
นายไบรอัน เลวิทท์ นักวิเคราะห์จากอ็อพเพนเฮเมียร์ฟันด์ กล่าวว่า "แม้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในตลาดสินเชื่ออย่าง'ตรงจุด' แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้นักลงทุนคลายความตื่นตระหนก นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่หวังผลทางจิตวิทยา"
"ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลในด้านบวกต่อตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ คือราคาน้ำมันตลาด NYMEX ที่ร่วงลง 90 เซนต์ แตะที่ระดับ 71.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าพายุเฮอริเคน'ดีน' อาจสร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก หลังจากที่บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่หลายแห่งได้อพยพคนงานออกจากพื้นที่ดังกล่าว" นายเลวิทท์กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นธอร์นเบิร์กซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 10.2% หลังจากบริษัทได้ขายกิจการบางส่วนเป็นเงินมูลค่า 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อระดมทุนไปพยุงธุรกิจปล่อยกู้จำนองให้สามารถรอดพ้นจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
ขณะที่หุ้นคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่สุดของสหรัฐ ดิ่งลง 7.6% เนื่องจากนักลงทุนไม่สนใจต่อข่าวที่ว่าบริษัทได้ประกาศลดจำนวนพนักงานเพื่อกอบกู้วิกฤตการณ์ในบริษัท
ส่วนหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 84.53 ดอลลาร์ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 172.76 ดอลลาร์ และหุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลง 42 เซนต์ ปิดที่ 48.39 ดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ