(เพิ่มเติม) PS เผยรักษากำไรขั้นต้นที่ 34% ได้ในปีนี้, ขยายลงทุนไปตปท.ได้สิ้นปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 8, 2007 13:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) คาดว่า ในครึ่งปีหลังกำไรจะดีกว่าในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยจะเปิดโครงการใหม่อีก 13 โครงการ มูลค่า 7.5 พันล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่คาดว่าจะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ไว้ที่ 34% หลังสินค้าของ PS ครอบคลุมทุก segment รวมถึงการรุกเข้าเมืองมากขึ้นเพื่อจับกลุ่ม Middle Income ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่แท้จริงเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยสิ้นปีน่าจะได้เห็นการเข้าลงทุนในเวียดนาม- อินเดีย
ขณะที่ ในครึ่งปีหลังคาดว่าจะใช้งบลงทุน 1.4 พันล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินรองรับโครงการในปี 51
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ PS กล่าวว่า การขยายตลาดไปต่างประเทศถือเป็นโอกาสในการลงทุนและยังเป็นการขยายการเติบโตของบริษัทในอนาคต ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 300-400 ล้านบาทต่อโครงการ และหวังผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ในต่างประเทศ 30%
การลงทุนต่างประเทศดังกล่าวบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาตลาดและรูปแบบการเข้าไปลงทุนซึ่งอาจจะเป็นการลงทุนเองหรือเป็น
jointventure ส่วนรูปแบบโครงการที่เวียดนามจะเป็นคอนโดฯแต่เป็นลักษณะเช่าที่ดิน 50 ปีซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศเวียดนาม ขณะที่อินเดียจะเป็นการซื้อขาด
"ตอนนี้เราอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศและยังไม่ได้ตัดสินใจจะเลือกที่ใดที่หนึ่งหรือทั้ง 2 ที่ แต่ 2แห่งจะเป็น position ในการลองตลาดของเรา ถ้าไปได้ดีก็จะมองที่ประเทศอื่นด้วย ซึ่งตอนนีก็มองที่ฟิลิปปินส์และอินโดฯไว้ โดยราคาเริ่มต้น 7-8 แสนบาท เฉลี่ยไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งการไปครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เราต้องปรับตัวมากเพราะไลฟ์สไตล์ของที่แต่ละแห่งจะคล้ายบ้านเราและตรงกับรูปแบบบ้านของ PS ด้วย" นายทองมา กล่าว
ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจ PS กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเปิดโครงการ 13 โครงการ รวมมูลค่า 7,503 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีเปิด 26 โครงการ โดยโครงการครึ่งปีหลังจะเปิดขยับเข้ามาในตัวเมืองมากขึ้นตามแผนการปรับธุรกิจ
ขณะที่ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/50 อยู่ที่ 4,755 ล้านบาท จะเป็นการทยอยรับรู้ และสอดคล้องกับยอดรับรู้รายได้ในปีนี้ที่บริษัทวางไว้ที่ 10,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 8.2 พันล้านบาท โดยมองว่าในครึ่งปีหลังรายได้จะเข้ามาประมาณ 5-6 พันล้านบาทเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 4-5 พันล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักยังมาจากบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 85% และอีก 15% มาจากคอนโดฯ และบริษัทก็จะคงสัดส่วนนี้
"ที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาฯชะลอแต่การที่เราปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการโดยเฉพาะคอนโดฯที่ความต้องการสูงเราก็ทำได้อย่างคอนโดฯ ไอวี่รัชดาที่เปิดไปก็ได้รับการตอบรับด้วยดี ใน 2-3 เดือน มียอด booking เกือบ 3 พันล้านบาท จึงทำให้เรายังมองว่าคอนโดฯยังน่าจะไปได้" นายประเสริฐ กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนหุ้นกู้ที่บริษัทออกไปแล้วจำนวน 1,000 ล้านบาท คาดว่าในวันนี้จะได้เงินจากการเสนอขาย 600 ล้านบาท และที่เหลืออีก 400 ล้านบาท จะเข้ามาในสัปดาห์หน้าซึ่งเม็ดเงินส่วนใหญ่บริษัทจะนำไปใช้ในการโครงการคอนโดฯ
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ให้อยู่ 34% เชื่อว่าจะทำได้หลังจากที่บริษัทปรับรูปแบบธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการรวมทั้งการรักษาต้นทุนการก่อสร้างและเชื่อว่าในครึ่งปีหลังกำไรจะปรับตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรกที่กำไรลดลงเนื่องจากโครงการส่วนใหญ่จะไปรับรู้ในครึ่งปีหลังจึงมองว่ากำไรในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนเช่นกัน
ทั้งนี้ มองว่าตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลังจะเติบโต โดยเฉพาะช่วงปลายปีซึ่งเป็น High season จึงทำให้มองว่าทั้งปีจะเติบโต 5-10% จากช่วงครึ่งปีแรกที่ชะลอตัวลง แต่ครึ่งปีหลังนี้รูปแบบและโครงสร้างของตลาดจะเปลี่ยนไป โดยเฉพาะบทบาทของตลาดจะเป็นคอนโดฯเข้ามาแทนบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ แต่บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ก็ยังมี room ที่โตได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ