นางสุชาดา โสตถิภาพกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/2550โดยเฉพาะกำไรสุทธิคาดว่าจะออกมาดีกว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่นที่ผลประกอบการปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ ได้กำไรจากพอร์ตลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่บริษัทมีขนาดการลงทุนจำนวนมากถึง 1 พันล้านบาท และจากกำไรจากการลงทุนในหุ้นรวมถึงตราสารหนี้ที่ได้รับผลตอบแทนดีในช่วงที่ผ่านมาหลังอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงมีแผนที่จะเพิ่มขนาดพอร์ตลงทุนแต่ยังคงต้องรอพิจารณาในรายละเอียดการลงทุนอีกครั้ง
"บริษัทยังมีผลกำไรที่ดีไม่เหมือนโบรกอื่นที่รายได้และกำไรลดลงมากหลังประกาศงบไตรมาส 2 เนื่องจากวอลุ่มตลาดรวมไม่ดี แต่เรามีกำไรจากพอร์ตลงทุน ทั้งการลงทุนในตลาดหุ้น และการลงทุนตราสารหนี้ก็กำไรดีจากการที่ดอกเบี้ยลงทำให้การลงทุนตราสารหนี้กำไรดี ชดเชยรายได้โบรกเกอร์เรทที่ลดลงจากวอลุ่มน้อย" นางสุชาดา กล่าว
สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกหลังปริมาณการซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม ประกอบกับบริษัทมีแผนที่จะเป็นที่ปรึกษาและเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 4/50 โดยขนาดกองทุนประมาณ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสินทรัพย์ประเภทศูนย์สรรพสินค้า
แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยยกเลิกมาตรการกันสำรองเงิน 30% เพื่อผลดีจากการลงทุนของต่างชาติ ซึ่งระยะเวลาการเตรียมการจนกระทั่งเข้าจดทะเบียนประมาณ 3 เดือนจะแล้วเสร็จ
ด้านส่วนแบ่งการตลาดบริษัทจะพยายามรักษาส่วนแบ่งปีนี้ไว้ที่ระดับ 4.2% ให้ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/50 ซึ่งถือว่าสูงจากปีก่อนอยู่ที่ 3.80% เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจหลักทรัพย์แข่งขันกันรุนแรง โดยหลายบริษัทส่วนแบ่งการตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทคาดว่าช่วงไตรมาสที่ 3/50คาดว่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์มากขึ้น จากที่มูลค่าการซื้อขายรวมในตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/จำเนียร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: jumnain@infoquest.co.th--