นางกนกวรรณรัตน์ ศรีมณีศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานบัญชีและการเงิน บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) เปิดเผยว่า รายได้ปีนี้คาดว่าจะทำได้ต่ำกว่าระดับ 9.9 พันล้านบาทในปีก่อน หลังจากที่บริษัทต้องปิดให้บริการสาขาทั้งหมดในช่วงวันที่ 22 มี.ค.-16 พ.ค. จากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้ในช่วงดังกล่าวสามารถจำหน่ายสินค้าได้เฉพาะช่องทางออนไลน์ที่มีสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับยอดขายที่มาจากสาขา
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเน้นความสามารถในการทำกำไร โดยการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมช่วยเพิ่มมาร์จิ้นให้กับสินค้า ปรับลดสินค้าคงคลังให้เหมาะสม และการปรับระยะเวลาการเปิดและปิดสาขา ให้เหมาะสมเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน
"หากดูจากตัวเลขการคาดการณ์ GDP ที่ติดลบ 8% จะเห็นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ลดลง กำลังซื้อก็จะอยู่ในทิศทางเดียวกันด้วย ซึ่งในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเราปิดสาขาไปทั้งหมด ทำให้เราคาดว่ายอดขายปีนี้คงต่ำกว่าปีก่อนแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามเราก็จะเน้นความสามารถในการทำกำไรโดยการเน้นบริหารจัดการต้นทุนด้านต่าง ๆ ให้มากที่สุด"นางกนกวรรณรัตน์ กล่าว
นางกนกวรรณรัตน์ กล่าวว่า สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/63 คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ จากการที่ประชาชนมีความคุ้นชินกับการทำงานอยู่บ้าน (Work From Home) ส่งผลให้ความต้องการเฟอร์นิเจอร์สำหรับโฮมออฟฟิศมีมากขึ้น และการหันมาทำอาหารทานเองมากขึ้น ก็ส่งผลต่อความต้องการสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์เครื่องครัวให้เติบโตด้วย และอีกส่วนหนึ่งมาจากผู้อยู่อาศัยหันมาปรับปรุงที่พักอาศัยมากขึ้น เนื่องจากใช้ระยะเวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น
"ทิศทางของไตรมาส 3/63 จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าบ้านใหม่หรือคอนโดฯ ใหม่จะไม่มากเหมือนก่อน แต่อย่างไรก็ตามบ้านเก่า หรือคอนโดฯ เก่าจำนวนมาก ต่างก็หันมาปรับปรุงที่อยู่อาศัยมากขึ้น เพราะใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ซึ่งในกลุ่มนี้ก็มีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และเรากลับมาเปิดสาขาได้เต็มที่จะช่วยหนุนรายได้ให้เติบโตได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ พร้อมกันนี้เรายังให้ความสำคัญกับตลาดออนไลน์ที่มีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาด้วย"นางกนกวรรณรัตน์ กล่าว