(เพิ่มเติม) PDI คาด H2/50 กำไรสุทธิและรายได้สูงกว่า H1/50 เหตุขายล่วงหน้าน้อยลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 14, 2007 17:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางวรทิพย์ ฤกษ์พิบูลย์ ผู้จัดการส่วนอาวุโสการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ. ผาแดงอินดัสทรี (PDI) คาดรายได้และกำไรสุทธิในครึ่งหลังปี 50 สูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 มีจำนวนขายสังกะสีล่วงหน้าต่ำลงเหลือไตรมาสละ 2,475 ตัน จาก ไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ได้ขายล่วงหน้าไตรมาสละ 7,500 ตัน 
ดังนั้น จะทำให้ในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 บริษัทมีโอกาสขายสังกะสีได้ในราคาที่ดีตามราคาตลาดโลก ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับ 3.3-3.4 พันเหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่บริษัทขายล่วงหน้าในราคา 1.6 กว่าพันเหรียญสหรัฐ/ตัน
ทั้งนี้ ในครึ่งแรกปี 50 บริษัทมีรายได้ 6,599 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 977 ล้านบาท
นางวรทิพย์กล่าวว่า ในปี 50 บริษัทมียอดขายล่วงหน้าปริมาณ 2 หมื่นล้านตัน น้อยกว่าปีก่อนที่มียอดขายล่วงหน้า 3 หมื่นต้น
อย่างไรก็ดี ทั้งปี 50 บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิจะต่ำกว่าปีก่อนที่มี 1.76 พันล้านบาท เพราะบริษัทมีต้นทุนสูงขึ้น โดยเฉพาะสินเร่สังกะสีที่นำเข้ามีราคาสูงตามราคาตลาดโลก โดยมีการนำเข้ามาในสัดส่วน 50% ประกอบกับบริษัทมีสต็อกคงค้างจากเมื่อปลายปีที่แล้วซึ่งมีราคาสูง โดยได้ทยอยขายไปจนหมดในไตรมาส 2/50
ขณะที่รายได้คาดว่าจะเพิ่มจากปีก่อนที่มี 10,350 ล้านบาท จากปริมาณขายเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนตันจากปีก่อนขายได้ 9.5-9.6 หมื่นตัน และระดับราคาสังกะสีในตลาดโลกในปีนี้ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน
"ตั้งแต่ต้นปีมาจากราคาอยู่ที่ประมาณ 3,500 เหรียญ/ตัน ตอนนี้ก็ลงมาบ้าง แต่ก็ยังอยู่แถวๆ 3,300-3,400 เหรียญ/ตัน เทียบแล้วราคาเฉลี่ยครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3,500 เหรียญ/ตัน จากปีที่แล้วราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3,200 เหรียญ/ตัน ก็คิดว่าปีนี้ราคาสังกะสีตลาดโลกเฉลี่ยแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000 เหรียญ/ตัน"นางวรทิพย์ กล่าว
นักวิเคราะห์ในตลาดโลกคาดว่า ราคาสังกะสีในตลาดโลกจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.8 พันเหรียญสหรัฐ/ตันในปี 51 เนื่องจากซัพพลายเพิ่มขึ้น
นางวรทิพย์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีสัดส่วนส่งออกมากขึ้น โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมาสัดส่วนส่งออกถึง 20% และในไตรมาสแรก ส่งออก 15% จากปีก่อนมีสัดส่วนส่งออกเพียง 5% โดยครึ่งปีแรกได้ส่งออกไปแล้ว 8 พันตัน เนื่องจากตลาดในประเทศชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยการเมือง และในไตรมาส 3/50 จะพยายามส่งออกในสัดส่วนไม่เกิน 20% เพราะมีมาร์จิ้นต่ำ
นางวรทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทรอประทานบัตรใหม่คาดว่าจะได้ภายในปีนี้ โดยเหลือขั้นตอนอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีและกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทได้ขอขยายเวลาไว้ 15 ปี แต่ถ้าไม่ได้ภายในปีนี้ บริษัทก็จะต้องนำเข้าสินแร่เพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่มาจากออสเตรเลียที่ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าที่เริ่มมีผลปีนี้จากการทำข้อตกลงการค้าเสรี(FTA)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ