นายณัทธร กิจสำเร็จ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.อมตะ วีเอ็น (AMATAV) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปีนี้ทั้งในแง่รายได้และกำไรสุทธิจะต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 709.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.56 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีภาระดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันยังได้รับปัจจัยกดดันจากรายได้การขายที่ดินหายไป เนื่องจากผลกระทบโควิด-19 ส่งผลให้กลุ่มลูกค้ามีปัญหาเรื่องการเดินทาง และบางกลุ่มอาจชะลอแผนการลงทุนโดยรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่ชัดเจนมากกว่านี้ ซึ่งรายได้ที่เหลือของบริษัทจะมาจากรายได้ประจำ (Recurring Income) จากค่าเช่า บริการ สาธารณูปโภคซึ่งมีเพิ่มมากกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามบริษัทอยู่ระหว่างติดตามการเจรจากับลูกค้าที่สนใจเข้าซื้อพื้นที่ในอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ฮาลอง ประมาณ 20 เฮกตาร์ รวมถึงปีนี้จะรับรู้รายได้ประมาณ 1 ใน 3 จากการขายหุ้นของ Amata Service City Long Thanh 1 Company Limited (ASCLT 1) และ Amata Service City Long Thanh 2 Company Limited (ASCLT 2) ในสัดส่วน 49% ให้แก่ Nova Rivergate Company Limited และ Nha Rong Investment & Commercial Joint Stock Company รวมเป็นเงิน 2,156 ล้านบาท และบริษัทคาดหวังรายได้จากการขายโรงงานสำเร็จรูป (RBF) จากลูกค้าที่เช่าอยู่เดิมด้วย "ผลกระทบหลักในปีนี้มากจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถเดินทางเข้ามาดูพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมได้ ทำให้เราไม่มีรายได้หลักจากการขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม แต่อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าประเทศเวียดนามยังเป็นเป้าหมายของการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งปีหน้าเราก็หวังจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 30-40 เฮกตาร์ได้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง"นายณัทธร กล่าว