โบรกเกอร์แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) มองเป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีโอกาสเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์เพียงรายเดียวที่จะทำกำไรเติบโตได้ในปีนี้ แม้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม AP สามารถปรับตัวได้ดีแม้ว่าในกลุ่มคอนโดมิเนียมยอดขายจะชะลอตัวลง แต่ยอดขายกลุ่มแนวราบยังคงเติบโตขึ้นมาได้ค่อนข้างดี
ทั้งนี้ ยอดขายเดือน ก.ค.-ส.ค.63 เติบโต 7% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายแนวราบที่เติบโตจากการเปิดตัวโครงการใหม่ และเน้นการขายโครงการเดิม ทดแทนยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมได้ทั้งหมด ส่งผลให้ 8 เดือนแรกปีนี้ทำยอดขายได้ถึง 64% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีนี้ ขณะที่ช่วงไตรมาส 4/63 มีแผนเปิดตัวแนวราบใหม่ มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และช่วยหนุนยอดขายทั้งปีนี้ให้ทะลุเป้าหมาย 3.35 หมื่นล้านบาท
ช่วงบ่ายราคาหุ้น AP อยู่ที่ 5.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 4.35% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.85%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 7.90 เอเอสแอล ซื้อ 8.20 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 8.50 ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ซื้อ 7.80 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 8.00 ทิสโก้ ซื้อ 6.80 เคจีไอ(ประเทศไทย) ซื้อ 7.70
นายดนัย ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางผลประกอบการของ AP ในปีนี้มีโอกาสเติบโตได้เมื่อเทียบกับบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายบริษัทอื่นที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจาก AP สามารถปรับตัวได้ดีในสถานการณ์ปัจจุบันแม้ว่าในกลุ่มคอนโดมิเนียมจะมียอดขายที่ชะลอตัวลง แต่ยอดขายกลุ่มแนวราบยังเติบโตขึ้นมาได้ค่อนข้างดี
ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเป็น 64% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 3.35 หมื่นล้านบาท แม้ว่ายอดขายคอนโดมิเนียมอาจจะไม่ดีนัก แต่ได้แรงหนุนจากโครงการแนวราบที่คาดว่าปีนี้จะได้มากกว่าเป้าหมาย 2.2 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มียอดขายแล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท โดยช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3/63 มียอดขายเติบโตแล้ว 7% ซึ่งมาจากการเติบโตของแนวราบถึง 19%
"เรายังคงมองว่า AP อาจจะเป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่สามารถทำกำไรสุทธิให้เติบโตได้ในปีนี้ หลังจากที่บริษัทปรับตัวในช่วงนี้ได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะในกลุ่มของแนวราบเติบโตได้ค่อนข้างมาก ขณะที่ราคาหุ้นมี P/E ที่ 5-6 เท่า และมีปันผลในระดับ 7% เราจึงยังแนะนำให้เข้าลงทุนอยู่"นายดนัย กล่าว
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยอดขายของ AP ในเดือน ก.ค.-ส.ค.63 เติบโต 7% โดยได้รับแรงหนุนจากแนวราบที่เติบโต 15% จากการเปิดตัวโครงการใหม่ และเน้นการขายโครงการเดิม สามารถทดแทนยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมได้ทั้งหมด ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีทำยอดขายได้แล้ว 64% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีนี้ ขณะที่ช่วงไตรมาส 4/63 มีแผนเปิดตัวแนวราบใหม่ มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี คาดว่าจะหนุนยอดขายทั้งปีทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 3.35 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ฟื้นตัวหลังโควิด-19 และดีกว่าที่เคยประเมิน บวกกับเริ่มเห็นผู้ประกอบการหลายรายนำโครงการคอนโดมิเนียมที่ถูกเลื่อนไปกลับมาเปิดขาย ก็ได้รับผลตอบรับที่น่าพอใจ จึงทำให้มองว่า AP มีโอกาสเปิดคอนโดมิเนียมภายในปีนี้เพิ่มเติมจากแผนได้ โดยมีที่ดินพร้อมพัฒนาในมืออยู่แล้ว ซึ่งจะเป็น Upside ต่อเป้ายอดขายทั้งปี
ด้าน บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ว่า AP คือหุ้น Top pick ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7% โดยผลประกอบการยังแข็งแกร่งแม้จะอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงมียอดขายรอโอน (Backlog) 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 65 ถือว่าแข็งแกร่งในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยผู้บริหาร AP ปรับเป้าเปิดโครงการใหม่เป็น 27 โครงการ ซึ่งเป็นแนวราบทั้งหมด รวมถึงมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ "อภิทาวน์" ที่จะเปิดโครงการในต่างจังหวัด โดยตั้งเป้าปีนี้เปิดตัว 5 โครงการ เริ่มที่ จ.นครศรีธรรมราชก่อน ในช่วงไตรมาส 3/63
ส่วนในช่วงไตรมาส 4/63 จะไปเปิดโครงการใหม่ที่ ระยอง ขอนแก่น เชียงราย และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทางผู้บริหารยังไม่ได้รวมโครงการจากอภิทาวน์ เข้าไปในเป้ารายได้ปีนี้ หากมีเสียงตอบรับที่ดี จะถือเป็น upside ต่อประมาณการ