นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีลุ้นรีบาวด์ทางเทคนิคหลังเข้าเขต Oversold แล้ว ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ปรับขึ้นราว 0.6-0.8% หลังจากที่การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มทรงตัว และยังมีความคาดหวังในความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯด้วย
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราอาจไปได้ไม่ไกลจากปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังกดดัน และอาจจะร้อนแรงขึ้นในเดือนหน้า (ต.ค.) ในประเด็นการแก้ไขร่างรรัฐธรรมนูญ ซึ่งผลการประชุมสภาในรอบนี้เป็นเหมือนการซื้อเวลาออกไปอีก 1 เดือน
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศ โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรป และรอฟังถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์คในวันนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,240-1,235 จุด ส่วนแนวต้าน 1,260-1,270 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,815.44 จุด เพิ่มขึ้น 52.31 จุด (+0.20%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,246.59 จุด เพิ่มขึ้น 9.67 จุด (+0.30%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,672.27 จุด เพิ่มขึ้น 39.28 จุด (+0.37%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 22.49 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 129.51 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 48.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 114.68 จุด,ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.56 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ก.ย.63) 1,247.46 จุด ลดลง 16.55 จุด (-1.31%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,338.78 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ก.ย.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ก.ย.63) ปิดที่ 40.31 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ก.ย.) อยู่ที่ 0.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.55 แข็งค่าจากวานนี้หลังดอลล์อ่อน ให้กรอบวันนี้ 31.45-31.60
- "บีทีเอส" เดินหน้าร้องแก้เกณฑ์ประมูล "รถไฟฟ้าสีส้ม" ไม่เป็นธรรม ยื่น "องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน" ช่วยตรวจสอบ เผยยื่นศาลขอคุ้มครองฉุกเฉินแล้ว ติงต้องเสนอ ครม.ก่อนแก้เงื่อนไขหรือไม่ ด้าน รฟม.เตรียมแถลงชี้แจงวันนี้ (25 ก.ย.) ยันทำตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 62
- "สุพัฒนพงษ์" มั่นใจ ศก.ไทยจะค่อยๆ ดีขึ้น และฟื้นตัวได้ในปี 66 เป็นอย่างช้า เตือนต้องไม่ประมาท "โควิด-19" กลับมาระบาดอีก เล็งอัดฉีดเงินรัฐ 1 แสนล้านบาท กระตุ้นการใช้จ่ายรับไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ปักหมุดปี 64-65 ฟื้นท่องเที่ยว-ใช้อีอีซี เป็นแม่เหล็กดึงลงทุน
- แบงก์ชาติเร่งผลักดัน โครงการ Digital Factoring ชี้อยู่ระหว่างพัฒนาระบบกลาง คาดแล้วเสร็จและ นำออกใช้ในวงกว้างต้นปี 64 เชื่อหนุน ไมโครเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อเพิ่ม 1 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 1 หมื่นรายปีหน้า
- รมว.พลังงาน มอบนโยบายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เร่งศึกษาและพัฒนาโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน และเร่งเจรจาซื้อขายไฟฟ้าให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา เมียนมา และมาเลเซีย เพื่อเดินหน้ารุกตลาดซื้อขายไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน แสวงหาโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงแนะให้พิจารณาลดค่าเสื่อมและอายุโรงไฟฟ้าจาก 25-30 ปี ให้มีระยะเวลาที่สั้นลง
- ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพบ 4 ธนาคารในไทยเกี่ยวข้องกับการโอนเงินต้องสงสัย ว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และปฏิบัติของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอย่างเคร่งครัด ทุกธนาคารได้กำหนดนโยบายและวิธีปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานสากล เช่น กระบวนการรับลูกค้าและพิสูจน์ทราบตัวตน การตรวจสอบรายชื่อลูกค้า และรายชื่อประเทศที่ห้ามทำธุรกรรม มาตรการบริหารความเสี่ยงตรวจสอบการทำธุรกรรม รวมถึงการรายงานธุรกรรมที่ผิดปกติไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
*หุ้นเด่นวันนี้
- TU (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 17.6 บาท ได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า แนวโน้มผลประกอบการ Q3/63 โตต่อเนื่องจาก High season ของธุรกิจ
- TVO (เอเอสแอล)"ทยอยสะสม"คาดแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังเติบโตดี โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 โดยราคาถั่วเหลืองทำ New high จากปรากฏการณ์ลานีญาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. ทำให้มีปริมาณฝนน้อย และส่งผลต่อปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองที่จะออกมาลดลงด้วย ประกอบกับในไตรมาส 4 ความต้องการใช้ถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้ราคาขายถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 9 บาท เป็นหนึ่งใน Top Pick ของกลุ่มอสังหาฯ คาดกำไร H2/63 เร่งตัวขึ้น +22% H-H ตามการโอนคอนโดนใหม่ทั้งหมด 6 โครงการ และเปิดโครงการใหม่เชิงรุกเกือบ 6 เท่าตัวจาก H1/63 ด้านราคาหุ้นปรับฐานลงหลังจากพุ่งขึ้นแรงสัปดาห์ก่อน แต่มีแรงซื้อกลับจากเส้น EMA 200 วัน เป็นสัญญาณบวก และ Valuation ยังถูก ซื้อขายที่ 2564PER เพียง 5 เท่า และคาดให้ Dividend Yield สูงถึง 8%