นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายปี 64 กลับมาฟื้นเติบโตหลังจากผ่านช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำให้ยอดขายและรายได้ของบริษัทหดตัวลงในปีนี้
บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 64 จะเติบโตได้ถึง 42% หรือทำได้ราว 2.08 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่น่าจะทำได้ราว 1.47 หมื่นล้านบาท หดตัวราว 28% จากปีก่อนหน้า หลังจากช่วงครึ่งปีแรกรายได้ปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงสถานการณ์โควิด แต่ยอดโอนเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นแล้วหลังจากคลายล็อกดาวน์ แต่ละเดือนมียอดเข้ามาระดับพันล้านบาท และเชื่อว่ายังมี Momentum ที่ดีต่อไปในช่วงที่เหลือของปีนี้
บริษัทยังคาดว่าในปี 64 จะมียอดขาย (พรีเซลล์) ราว 1.66 หมื่นล้านบาท โดยจะมาจาก PF เองราว 1.55 หมื่นล้านบาท และ บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) ราว 1,100 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนจะเปิดตัว 9 โครงการใหม่ ซึ่งจะเน้นบ้านเดี่ยว ไม่มีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม หลังจากช่วงสถานการณ์โควิดทำให้ความต้องการบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทยังมีโครงการในมือที่สร้างเสร็จพร้อมขาย (สต็อก) เป็นบ้านเดี่ยว 2,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมราว 6,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการใหม่ที่มีแผนจะเปิดตัวในปีหน้า ได้แก่ ไตรมาส 1/64 เปิดตัว โมดิ บางนา 2 มูลค่า 1,000 ล้านบาท, ไตรมาส 2/64 เปิดตัว เพอร์เพค พาร์ค บางใหญ่ 2 มูลค่า 1,700 ล้านบาท โมดิ วิลล่า บางใหญ่ 2 มูลค่า 1,000 ล้านบาท บ้านหรู 3 ขั้น สุทธิสาร มูลค่า 500 ล้านบาท บ้านหรู 3 ชั้น สุขุมวิท 71 มูลค่า 500 ล้านบาท, ไตรมาส 3/64 เปิดตัว โมดิ วิลล่า รังสิตคอล 4 มูลค่า 860 ล้านบาท เพอร์เฟค พาร์ค พหลฯ-จตุโชติ มูลค่า 780 ล้านบาท และไตรมาส 4/64 เปิดตัว บ้านหรู 3 ชั้น รัตนาธฺเบศร์ มูลค่า 900 ล้านบาท เพอร์เฟค เพลส รามคำแหง-ร่มเกล้า มูลค่า 750 ล้านบาท
ส่วนในไตรมาส 4/63 มีแผนจะเปิดตัวโครงการแนวราบเพิ่มอีก 1 โครงการ คือ มาสเตอร์พีช สุขุมวิท 77 ราว 1,750 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจโรงแรมในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ราว 1,600 ล้านบาท มาจากธุรกิจในญี่ปุ่น 800 บ้านบาท และในไทย 800 ล้านบาท โดย 6 เดือนแรกมีรายได้แล้ว 1,450 ล้านบาท คิดเป็น 65% ของเป้า เหลืออีก 35% ซึ่งตัวแปรสำคัญคือจะมีการเปิดประเทศเมื่อใด มีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยปัจจุบันยังคงเน้นให้บริการนักท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก
นายธีรธัชช์ กล่าวว่า PF ยังคงเป้าหมายเดิมที่จะสร้างความแข็งกร่งให้กับงบดุล เพิ่มความสามารถทำกำไร ลดภาระหนี้ ด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากทั้งการดำเนินการปกติ และโครงการร่วมทุนที่เริ่มมาตั้แต่ปี 62 และยังมีแลนด์แบงก์พอจะขายออก แต่ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่ไม่มีแผนพัฒนา และอาจขายเงินลงทุนบางส่วนออกไปด้วยหลังจากปีนี้ได้ขายหุ้นใน บมจ.โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) (ROH) ที่ถือหุ้นอยู่ 98.48%
ภาพรวมธุรกิจ แนวราบยังไปได้ มีลูกค้าที่สนใจ และคิดว่าโควิดทำให้ภาพของแนวราบดูดีขึ้น จากการทำงานที่บ้านในช่วงที่โควิดแพร่ระบาด ทำให้คนมองหาบ้านเดี่ยวชานเมืองใกล้รถไฟฟ้ามากขึ้น แทนที่จะมาแออัดในคอนโดมิเนียม ส่งผลให้ดีมานด์แนวราบเติบโตต่อเนื่อง แต่คอนโดมิเนียมได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก และคาดว่าจะชะลอตัวไปอีกระยะจนกว่าจะดีมานด์และซัพพลายจะเข้าสู่สมดุล
ด้านธุรกิจโรงแรมคงต้องรอความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน และเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา เพราะต้องยอมรับว่าตลาดในประเทศคงไม่สามารถทดแทนต่างประเทศได้ทั้งหมด เชื่อว่าปีหน้าน่าจะดีขึ้นจากปีนี้