ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงกว่า 380 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้ากลุ่มซับไพรม์ในสหรัฐ
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ดิ่งลง 122.7 จุด หรือ 1.92% ปิดที่ 6,271.2 จุด หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 6,228.0 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 3.58 พันล้านหุ้น
นายอเล็กซ์ พ็อทเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทคอลลินส์ สจ๊วต กล่าวว่า "ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาตลาดซับไพรม์ในสหรัฐกำลังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นหลายแห่งทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อวาณิชธนกิจบีเอ็นพี พาริบาส์ ของฝรั่งเศสประกาศปิดกองทุน 3 แห่งที่ลงทุนในตลาดซับไพรม์ในสหรัฐ ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้กำลังส่งผลกระทบถึงตลาดหุ้นลอนดอนด้วย"
ข่าวบีเอ็นพี พาริบาส์ปิดกองทุนได้ฉุดหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง โดยหุ้นแมนกรุ๊ปดิ่งลง 45 เพนซ์ ปิดที่ 520 เพนซ์ หุ้นโอลด์ มิวช่วลร่วงลง 7.3 เพนซ์ ปิดที่ 160.6 เพนซ์ หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ รูดลง 24 เพนซ์ ปิดที่ 317 เพนซ์ และหุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ ปรับตัวลง 29 เพนซ์ ปิดที่ 1079 เพนซ์
ส่วนหุ้นแอสทราซิเนก้าซึ่งอยู่ในกลุ่มเวชภัณฑ์ ดิ่งลงอย่างหนักถึง 141 เพนซ์ ปิดที่ 2376 เพนซ์ หลังจากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐเตรียมทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยของยา Prilosec และยา Nexium ซึ่งเป็นยาของบริษัทที่ใช้รักษาอาการกรดเกินในกระเพาะอาหาร เนื่องจากพบว่ายาทั้ง 2 ชนิดมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการทางหัวใจ
อย่างไรก็ตาม หุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ไต่ขึ้น 8 เพนซ์ ปิดที่ 444.5 เพนซ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าตัดจำหน่าย (EBITA) ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 700 ล้านปอนด์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--