บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส(UMS) เตรียมพิจารณาการปรับขึ้นราคาขายถ่านหินอีกรอบ โดยจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 4/50 ถึงไตรมาส 1/51 ราว 5-10% จากที่ได้ปรับไปแล้วครั้งหนึ่งใน ก.คง 50 เนื่องจากต้นทุนปรับขึ้น โดยเฉพาะค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น ตามค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาถ่านหินในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ไว้ที่ 28-29% ซึ่งลดลงเล็กน้อยจาก 30% ในปี 49 โดยในช่วงครึ่งปีหลัง อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นมาเป็น 29-30% จาก 26% ในครึ่งปีแรก
นายปิยะ ตันธนพิพัฒน์ รักษาการผุ้ช่วยกรรมการผู้จัดการ UMS คาดว่ารายได้ปีนี้จะมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 พันล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจถ่านหินน่าจะทำรายได้มากกว่า 2 พันล้านบาท รวมกับธุรกิจโลจิสติกส์ที่น่าจะเริ่มมีรายได้เข้ามาประมาณ 50 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง
"ในปีนี้เราจะปรับเป้ารายได้จาก 2 พันล้านบาท ซึ่งปรับมาครึ่งหนึ่งแล้วจาก 1.8 พันล้านบาท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะปรับเป็นเท่าไร แต่ต้องรอดูผลประกอบการในไตรมาส 3 แต่ที่ผ่านมาเดือนครึ่ง มั่นใจว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะมากกว่าไตรมาส 2"นายปิยะ กล่าว
ในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาทในการลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ ซึ่งแหล่งเงินมาจากกระแสเงินสดของบริษัท แบ่งเป็น 120-150 ล้านบาทลงทุนคลังสินค้าและท่าเทียบเรือที่ อ.สวนส้ม จ.สมุทรสงคราม, 40 ล้านบาทลงทุนคลังสินค้าที่ อ.นครหลวง จ.อยุธยา และ ทื่เหลือใช้ซื้อรถบรรทุกและเรือบรรทุก
นายปิยะ คาดว่า บริษัทจะสามารถจ่ายปันผลในช่วงครึ่งปีหลังได้มากกว่า 0.50 บาทต่อหุ้นที่ได้จ่ายในช่วงครึ่งปีแรกปี 50 รวมทั้งบริษัทจะให้ใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์)ฟรีกับผู้ถือหุ้น อัตราใช้สิทธิในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 วอแรนท์
ทั้งนี้ บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งการออกวอร์แรนต์ 70 ล้านหน่วยเมื่อก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ในเดือน ต.ค. เป็นอย่างช้า
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--