บมจ.บ้านปู(BANPU) คาดปี 50 ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยจะอยู่ที่ 39 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากประมาณการที่ 38 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากครึ่งปีแรกราคาตลาดทรงตัวในระดับดี ประกอบกับปริมาณการขายถ่านหินคุณภาพดีจากเหมืองในอินโดนีเซียสูงขึ้น โดยในไตรมาสที่ 2/50 ราคาขายปรับขึ้นมาเป็น 39.97 เหรียญสหรัฐ/ตัน
ส่วนปริมาณถ่านหิน BANPU ได้ปรับเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายในปีนี้จาก 21 ล้านตัน ลดลงเหลือ 20 ล้านตัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากการขายรวมของบริษัทบ้างเล็กน้อย จากที่เคยคาดว่าจะสูงกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ราว 10% แต่ถ่านหินที่ผลิตลดลงส่วนใหญ่เป็นถ่านหินในประเทศที่มีคุณภาพต่ำ ขณะที่ปริมาณการผลิตถ่านหินคุณภาพดีจากเหมืองในอินโดนีเซียไม่เปลี่ยนแปลงจากเป้าหมายเดิมที่ 19 ล้านตัน
ทั้งนี้ ปริมาณการขายถ่านหินในครึ่งปีแรก 2550 ที่ผ่านมามีจำนวน 9.20 ล้านตัน ปรับตัวลดลง 7% จากจากครึ่งปีแรก 2549 ที่มีจำนวน 9.84 ล้านตัน โดยมาจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซีย 8.3 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็น 90% ของปริมาณถ่านหินที่ผลิตได้ทั้งหมด
“แม้ว่าปริมาณการขายถ่านหินโดยรวมในช่วงครึ่งปีแรกจะลดลง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้โดยรวมมากนัก เนื่องจากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาปริมาณการขายถ่านหินคุณภาพดีจากเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับราคาตลาดที่ทรงตัวในระดับดี ส่งผลให้ราคาถ่านหินเฉลี่ยของบริษัทฯ ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 39.97 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ปรับราคาถ่านหินเฉลี่ยในปี 2550 จาก 38 เหรียญสหรัฐต่อตัน เป็น 39 เหรียญสหรัฐต่อตัน" นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU กล่าว
BANPU แจ้งผลประกอบการครึ่งแรกงวดปี 2550 มีกำไรสุทธิ 2,953 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2549 เป็นผลจากการรับรู้กำไรของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี หลังจากสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้เต็มกำลังในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และกำไรจากธุรกิจถ่านหินซึ่งมีราคาที่ดีขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--