หุ้น MICRO ปิดเทรดวันแรกที่ 5.45 บาท เพิ่มขึ้น 2.80 บาท (+105.66%) จากราคาขาย IPO 2.65 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 3,963.42 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.78 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.55 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.74 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นบมจ.ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) ไว้ที่ 3.20 บาท อิง PER ที่ 17 เท่า และ PBV ที่ 1.6 เท่าสำหรับปี 2564 พร้อมคาดกำไรจะเพิ่มขึ้นจาก 1) สมมติฐานของสินเชื่อที่โตขึ้น 18 ? 22% ในปี 2563-2564 2) หากรวมค่าธรรมเนียมผลตอบแทนของสินเชื่อจะอยู่ที่ 19% ในปี 2563-2564 (มองเชิงรับจากปกติที่ 19.11% ใน H1/63) 3) ต้นทุนของเงินที่ 4.5% และ 4.0% ในปี 2563-2564 และ 4) Credit Cost ที่ 1.7% และ 1.4% สำหรับปี 2563-2564 ในเชิงของคุณภาพสินทรัพย์ โดยมี NPL อยู่ที่ 2.67% และ Loan-loss Coverage ที่ 155.4% ในช่วงไตรมาส 2/63
ทั้งนี้ คาดผลประกอบการปี 2563-2564 เพิ่มขึ้น 23.2% เป็น 137 ล้านบาท และ 28.3% เป็น 175 ล้านบาทตามลำดับ
ปัจจุบันสินเชื่อเฉลี่ยต่อรายการอยู่ที่ 7.5 แสนบาท โดยมี LTV ที่ 70 ? 85% ที่ดอกเบี้ยคงที่ 8 ? 15% กำหนดชำระภายใน 4 ? 5 ปี และสินเชื่อกว่า 94% ของ MICRO เป็นสินเชื่อรถบรรทุกมือ 2 ทำให้มีอัตราที่สูงกว่าปกติที่ 16.21% และเมื่อรวมค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 19% ในช่วง 1H63 และคาดว่าจะโตต่อได้ในครึ่งปีหลังจากการเพิ่มพนักงาน (สัดส่วนค่าใช้จ่าย 58% จากต้นทุนรวม) แต่อย่างไรก็ตาม สินเชื่อจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต และคาดว่าต้นทุนต่อรายได้จะอยู่ที่ 40.2% ในปี 2565F ลดลงจากเดิมที่ 44.4% ในปี 2562
MICRO เป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถมือ 2 ทั้ง 6 และ 12 ล้อ โดยสินเชื่อโตขึ้น 5.1% YoY ในช่วง 1H63 เป็น 2.1 พันล้านบาท และคาดว่าในปี 2563F/64F จะโตขึ้นอีก 18% และ 22% เป็น 2.4 และ 2.9 พันล้านบาท ตามลำดับ และลูกค้ากว่า 53% ของ MICRO เป็นผู้ให้บริการ Logistic และอีก 21.3% ประกอบธุรกิจก่อสร้างซึ่งเชื่อว่า จะมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น และทนทานกว่าตลาดในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว (ลูกค้าให้ความสนใจตลาดมือ 2 เพิ่มขึ้นจากราคาที่ถูก) ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด 5% (อีก 2 รายในตลาดรวมกัน 12%) และมีแผนที่จะชิงส่วนแบ่งอีก 80% มาจากรายย่อยในธุรกิจ