ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดอ่อนตัวลงในวันนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากความกังวลเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาสินเชื่อทั่วโลกและวิกฤติซับไพร์มในสหรัฐ โดยการออกมาแสดงความคิดเห็นของเกลนน์ สตีเว่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียในวันนี้ว่า เศรษฐกิจโลกจะสามารถรับมือกับปัญหาสินเชื่อได้นั้น ไม่สามารถคลี่คลายความกังวลในตลาดได้ โดยนักลงทุนยังคงโยกย้ายการลงทุนไปหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าแทน
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดลบ 40.5 จุด หรือ 0.7% ปิดที่ 5,671.0 จุด หลังจากปรับตัวในช่วง 5,637.4-5,788.2 จุด ปริมาณการซื้อขาย 2.65 พันล้านหุ้น มูลค่า 8.65 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
เชน โอลิเวอร์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์เอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์ กล่าวว่า นักลงทุนที่มีท่าทกังกังวลยังคงหลีกเลี่ยงการลงทุนในตลาดหุ้นและหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่า ทั้งในรูปของเงินสดหรือพันธบัตรรัฐบาล การลงทุนที่ปลอดภัยเช่นนี้ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้น และยังทำให้นักลงทุนลดการทำ carry trade สกุลเงินเยน ส่งผลให้เงินเยนอยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี
โอลิเวอร์กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าภาวะผันผวนในตลาดสินเชื่อและตลาดหุ้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว เพราะมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะกำลังตามมา อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจออสเตรเลียและเศรษฐกิจโลกยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้
ในกลุ่มหุ้นหลักๆนั้น หุ้นเหมืองแร่อย่างบีเอชพี บิลลิตัน ตกลง 56 เซนต์ ปิดที่ 32.44 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นริโอทินโตปรับตัวลง 1.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.16 ดอลลาร์
ส่วนหุ้นแบงค์รายใหญ่ๆปรับตัวสูงขึ้น หุ้นเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ ปรับตัวสูงขึ้น 3 เซนต์ แตะ 37.98 ดอลลาร์ หุ้นเอเอ็นแซทขยับขึ้น 49 เซนต์ ปิดที่ 27.54 ดอลลาร์ และหุ้นเวสท์แพคปรับตัวสูงขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 25.20 ดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--