ก.ล.ต.-สมาคม บล.ผลักดันโบรกฯดูแลตัวเองอยู่ในระดับดี พร้อมรับเปิดเสรี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 3, 2007 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) จับมือสมาคมบริษัทหลักทรัพย์(บล.)เพื่อร่วมกันส่งเสริมการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG) ของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทหลักทรัพย์ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมต่อการเปิดเสรีใบอนุญาตธุรกิจหลักทรัพย์ในอนาคต 
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวว่า ได้มีการทำข้อตกลงกันในประเด็นต่าง ๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์ของไทย โดยในด้านบทบาทของก.ล.ต.ได้ขอให้สมาคมบล.ศึกษาจังหวะเหมาะสมที่จะเสนอตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับขึ้นอัตราการวางหลักประกันสำหรับการซื้อขายหุ้นแบบ net settlement จาก 10% ให้สูงพอที่จะรองรับความเสี่ยงในระบบการชำระเงินกรณีที่ราคาหุ้นมีความผันผวนสูง ซึ่งในตลาดสากลจะกำหนดอัตราดังกล่าวสูงถึง 20—25% โดยเป็นการทยอยปรับขึ้นทีละขั้นเพื่อประกาศล่วงหน้าให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้าใจและมีเวลาเตรียมตัว
พร้อมกันนั้น ก.ล.ต.จะผ่อนคลายเกณฑ์เกี่ยวกับการเปิดสาขาและเวลาทำการของ บล. เพื่อให้มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ และสามารถขยายการประกอบธุรกิจได้มากขึ้น โดยจะพิจารณาให้ บล.ที่มีความพร้อมแล้ว สามารถเปิดสาขาในต่างประเทศได้โดยต้องขออนุญาตก่อน
และ ผ่อนคลายการกำกับดูแล โดยให้ บล. สามารถทำธุรกิจนอกเวลาทำการปกติได้ และให้ผู้จัดการสาขา 1 คน รับผิดชอบดูแลมากกว่า 1 สาขาได้ หากบริษัทมีระบบในการกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ถือว่าการเปิดบูธเป็นการชั่วคราว เป็นการประกอบการนอกสถานที่ ซึ่งจะทำให้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิมที่ถือว่าเป็นการเปิดสาขา
ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป เพื่อประกอบการยกร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวต่อไป
นอกจากนั้น ก.ล.ต. จะเปิดเผยชื่อ บล. ต้นสังกัดของผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่กระทำผิด เริ่ม 1 มกราคม 2551 เพื่อให้ข้อมูลที่เปิดเผยเกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนมีความชัดเจนยิ่งขึ้น และผู้ลงทุนสามารถนำไปประกอบการพิจารณาเปิดบัญชีกับ บล. ได้
นายธีระชัย กล่าวว่า ส่วนบทบาทของ บล.กำหนดจะจัดทำบทวิจัยหรือให้คำแนะนำในการลงทุนโดยพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับ CG และความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) ของ บจ. โดยสนับสนุนให้กรรมการของ บล. เข้ารับการอบรมหลักสูตรในทำนองเดียวกับหลักสูตรของ IOD โดยอย่างน้อยกรรมการอิสระของ บล. ทั้งระบบ ควรได้รับการอบรมดังกล่าวอย่างครบถ้วนภายในสิ้นปี 2551 ทั้งนี้ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของกรรมการและสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างครบถ้วน
ขณะที่ก.ล.ต. จะนำแนวทางที่กำหนดใน “คู่มือกรรมการของบริษัทหลักทรัพย์" เกี่ยวกับการกำหนดว่าโครงสร้างคณะกรรมการบริษัทควรมีความเป็นอิสระจากฝ่ายจัดการในระดับหนึ่ง มาใช้ประกอบการพิจารณาให้ความเห็นชอบกรรมการและผู้บริหารของ บล. อย่างเข้มงวด โดยรวมถึงข้อกำหนดที่ว่าประธานกรรมการและผู้มีอำนาจสูงสุดในการบริหารงานของ บล. จะต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อให้มีความสมดุลเรื่องอำนาจและการสอบทานการปฏิบัติงานของฝ่ายจัดการ
สำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดเสรีใบอนุญาตธุรกิจหลักทรัพย์ สมาคมบล.ได้ร่วมกับบริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบใหม่ รวมทั้งเตรียมความพร้อมของบริษัทหลักทรัพย์ในการให้บริการซื้อขายผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าว ได้แก่ SET 50 Index Options และ Derivative Warrants ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มสินค้าในตลาดทุน ขณะเดียวกันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุน โดย SET 50 Index Options จะเริ่มทำการซื้อขายในวันที่ 29 ตุลาคม 2550
นอกจากนี้ สมาคมได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคและภาพรวมในการพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์ในเรื่องต่างๆ เช่น โครงสร้างอัตราค่าคอมมิชชั่น การขยายฐานนักลงทุน การเพิ่มปริมาณและคุณภาพของเจ้าหน้าที่การตลาด/นักวิเคราะห์ การปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) และการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของบริษัท เป็นต้น ซึ่งสมาคมจะได้นำผลการพิจารณาดังกล่าวมาหารือกับ ก.ล.ต. ต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ