นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ ? ด้านตลาดทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของ บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้เปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 69 ล้านหุ้น และการจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกินจำนวน 10.35 ล้านหุ้นโดยเสนอขายในราคาหุ้นละ 0.88 บาท ระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค.63 ปรากฏว่ากระแสตอบรับจากนักลงทุนดีเกินกว่าที่คาดไว้เป็นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของบริษัทที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก
ทั้งนี้ หุ้น KK มีกำหนดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดบริการ ในวันที่ 7 ต.ค.63 นี้
นายรัฐชัย กล่าวว่า แม้ KK จะเป็นหุ้นที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ด้วยความโดดเด่นจากการเป็น Modern-Traditional Trade จำนวน 28 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูล และดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า 27 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสามารถสร้างผลประกอบการที่โดดเด่นยอดขายและกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องทุกปี และในอนาคตยังมีโอกาสเติบโตต่อไปได้อีกมาก จากการขยายร้านสาขา "เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์" อย่างต่อเนื่องราว 3-4 สาขาในแต่ละปี
ดังนั้น เมื่อ KK ได้รับเงินจากการเพิ่มทุนและนำไปใช้ตามแผนงานที่วางไว้ จะทำให้มีสาขาเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นและทำให้รายได้และกำไรเติบโตตามไปด้วย ซึ่ง KK จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 7 ต.ค.นี้มั่นใจว่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่ขวัญใจนักลงทุนรายต่อไป
ด้านนายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ KK กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการขยายร้านสาขา เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยแผนงานในอนาคตเตรียมจะขยายร้านสาขาอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดสงขลา พัทลุง สตูล และจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ เพื่อมุ่งสู่การเป็นร้านสะดวกซื้อชั้นนำในภาคใต้ และเป็นร้านค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับแรกๆ ที่ผู้บริโภคนึกถึง ภายใต้แนวคิด "ซื้อของครบ พบของถูก ถูกทุกวัน ที่ K&K ทุกสาขา ใกล้บ้านคุณ" เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต
"มั่นใจว่าธุรกิจของ KK ในอนาคตจะสามารถขยายตัวต่อไปได้อีกมาก จากเงินทุนหมุนเวียนที่มีมากขึ้น มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่สำคัญสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืนในอนาคต"นายกวิศพงษ์ กล่าว