บล.ไอร่า เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรตปท.เป็นแบงก์สวิส-Hedge Fund ยุโรป

          นายทรงพล บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บล.ไอร่า กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาพันธมิตรต่างประเทศเข้ามาร่วมธุรกิจ ซึ่งเป็นธนาคารจากสวิตเซอร์แลนด์ 1 แห่ง และ เป็นกองทุนประเภท Hedge Fund จากยุโรป 2 กอง โดยบริษัทจะเปิดทางให้เข้ามาถือหุ้นรวมกันแล้วไม่เกิน 20% คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ 
          หลังจากนั้น บริษัทอาจจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 500 ล้านบาทเป็น 1 พันล้านบาทเพื่อรองรับการเข้ามาของพันธมิตรใหม่ โดยผู้ถือหุ้นใหญ่จะยังคงเป็นกลุ่มตระกูลวิไลลักษณ์และตระกูลจุฬางกูรถือหุ้นรวมกัน 21%
          นายศุภชัย พิศิษฐวานิช ประธานกรรมการ บล.ไอร่า ระบุว่า บริษัทตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ในปี 50 ไว้ที่ 2% โดยจะเน้นทั้งฐานลูกค้ารายย่อยและสถาบัน ลูกค้าต่างประเทศและอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้ง โดยจะชูจุดแข็งด้านทีมงานการตลาดและทีมงานด้านวิเคราะห์หลักทรัพย์
          ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะกระจายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 52 โดยเชื่อมั่นว่าในช่วง 1-2 ปีนับจากนี้ บริษัทจะมีกำไร โดยเฉพาะในปีนี้หลังจากดำเนินการมาได้ 2 เดือน ภายใต้ชื่อ บล.ไอร่า หลังจากซื้อใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จากบล.พรูเดนท์ สยาม 
          "หลังซื้อไลเซ่นส์มาก็มีกำไรต่อเนื่อง ในส่วนของลูกค้าปัจจุบันมี 2 พันราย ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1 หมื่นรายภายในระยะเวลา 2 ปี" นายศุภชัย กล่าว
          ขณะที่งานด้านวาณิชธนกิจปัจจุบันมีดีลลูกค้ากว่า 30 ราย ซึ่งเป็นดีลไอพีโอ 2-3 ราย ส่วนที่เหลือเป็นที่ปรึกษากระจายหุ้นและควบรวมกิจการ       
          สำหรับกรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับการดึงตัวเจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เกตติ้ง)ระหว่าง บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) (KGI) กับ บล.ไอร่า นั้น นายนคร คลศรีชัย รองกรรมการผู้จัดการ บล.ไอร่า ซึ่งย้ายมาจาก KGI พร้อมทีมงานมาร์เก็ตติ้งรวมราว 22-23 คนว่า ถือเป็นเรื่องข้อขัดแย้งส่วนตัวที่มีกับผู้บริหาร KGI เนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกัน ไม่เกี่ยวกับบล.ไอร่า เชื่อว่าจะไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยให้ KGU 
          ส่วนพนักงานของ KGI ที่ย้ายมาพร้อมกันเป็นพนักงานในสาขาสำนักงานใหญ่และสาขาสุรวงศ์ ซึ่งมาร์เก็ตติ้งที่ย้ายตามมามีวอลุ่มเทรดเพียง 10% ของวอลุ่มทั้งหมดของบริษัท ไม่ถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูง